สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์องค์สุดท้ายของลาวอย่างไร?
เจ้าสร้อยมาลา : เจ้ายายชวด เป็นราชธิดาของเจ้าสุริยะวงศามหาราชแห่งลาว ซึ่งเป็นโอรสของเจ้าไชยเชษฐาธิราช* กษัตริย์ลาว ที่เคยเสด็จมาครองนครเชียงใหม่ โดยเจ้ายายชวดได้ลี้ภัยจากลาวจะไปเชียงใหม่ แต่พลัดหลงไปลำปาง กระทั่งได้เป็นชายาของเจ้าพ่อทิพย์ช้าง เจ้าผู้ครองนครลำปาง และสืบเชื้อสายต่อมาจนถึงตัวเองเป็นรุ่นที่ 6 แต่ตัวเองเกิดที่เชียงตุง เพราะเจ้าตาเป็นเจ้าเมืองป่าแล ที่เชียงตุง พอโตขึ้นมาพอที่จะเข้าโรงเรียนได้มาอยู่ประเทศไทยและเข้าเรียนเด็กเล็กที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย เชียงใหม่ และเรียนจนกระทั่งจบ จึงย้ายไปอยู่ลาวที่เมืองหลวงพระบาง ถึง พ.ศ. 2518 ที่ลาวมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงได้ลี้ภัยกลับมาอยู่ประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน
เป็นหลานของ “หลวงปู่เกษม เขมโก” ด้วย?
เจ้าสร้อยมาลา : เจ้ายายตนชื่อ เจ้าคำมูลมา เป็นพี่เป็นน้องที่มีความใกล้ชิดกับหลวงปู่เกษม ซึ่งหลวงปู่เกษมจะเรียกเจ้ายายว่า เจ้าพี่คำมูล โดยวันเกิดของหลวงปู่เกษมทุกปี หลวงปู่เกษมจะให้คนนำเงินและขนมมาให้กับเจ้ายวงคำ และเจ้ายวงแก้ว ซึ่งเป็นเจ้าป้าและเจ้าแม่เสมอไม่เคยขาด
ขณะที่บ้านพักที่ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่งมีการสร้างและต่อเติมบ้านใหม่เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา พร้อมตั้งชื่อว่า “เฮือนเกษม-พันล้าน” ด้วย เพื่อเป็นการระลึกถึงหลวงปู่เกษม และตั้งใจว่าบุญบารมีของท่านจะช่วยให้ขายทรัพย์สมบัติที่ตกทอดมาจากราชวงศ์หลวงพระบางให้ได้เงินถึงพันล้านบาทเพื่อนำไปทำบุญ ซึ่งหากครบถ้วนตามจำนวนนั้นแล้วตัวเองจะยุติ และเข้ากรรมฐานตลอดช่วงชีวิตที่เหลือ ส่วนทรัพย์สินต่างๆ จะยกให้ลูกหลานทั้งหมด
เครื่องเงินโบราณ, ผ้าซิ่น, ผ้าทองคำ และเครื่องประดับต่างๆ ที่เป็นสมบัติของราชวงศ์ตกทอดกันมาอย่างไร?
เจ้าสร้อยมาลา : สมบัติข้าวของทั้งหมดเป็นของเก่าอายุ 200-300 ปี จากลาวทั้งหมด เก็บสะสมตกทอดกันมา 6 ชั่วอายุคน จนมาถึงตัวเอง จำนวนทั้งหมดเท่าไรไม่สามารถบอกได้ บอกได้แต่เพียงว่าเครื่องเงินเฉพาะที่เป็นเครื่องใช้สำหรับเชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์หลวงพระบาง ซึ่งจะมีตราช้างสามเศียร เป็นตราสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์ บ่งบอกสถานะความเป็นเจ้าและใช้ส่วนพระองค์ ทั้งชิ้นเล็กและใหญ่มีจำนวนรวมกันประมาณ 300 ชิ้น มูลค่าตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน
ขณะที่ผ้าซิ่นตีนจกมีจำนวนมากเป็นพันๆ ผืน แต่ละผืนเป็นผ้าเก่าแก่อายุร้อยปี นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับ และอัญมณีอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสมบัติดังกล่าวนี้มีการนำเข้ามาตั้งแต่ครั้งที่บรรพบุรุษมาจากลาว ทุกวันนี้สมบัติส่วนใหญ่จะเก็บไว้ที่บ้านที่จังหวัดลำปาง และจะนำออกมาในช่วงที่ต้องการขายเพื่อนำเงินไปทำบุญ
เริ่มนำสมบัติเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วคนออกขายเพื่อนำเงินไปทำบุญได้อย่างไร?
เจ้าสร้อยมาลา : ตั้งแต่เด็กเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว สมัยเรียนที่โรงเรียนเรยีนาฯ จบ ม.5 แล้วต้องหยุดเรียนไป 3 ปี ก่อนที่จะกลับไปเรียนที่โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ เนื่องจากมีเทพประทับร่างให้ช่วยเหลือรักษาคนเจ็บป่วย และได้เงินทองมานำไปบูรณะวัดร่ำเปิง กระทั่งเลิกเข้าทรง และไปศึกษาธรรมฝึกวิปัสสนากรรมฐานที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งที่นั่นได้พบกับแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ด้วย
ส่วนการนำสมบัติเก่าแก่ออกขายเพื่อทำบุญนั้น เริ่มจากปี 2549 ได้บริจาคเงิน 4.9 แสนบาท ตั้งมูลนิธิช่วยเหลือพระสงฆ์จากลาวที่มาเรียน และศึกษาธรรมที่วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ แต่ต่อมาในปี 2552 ปรากฏว่ามูลนิธิไม่เหลือเงินเลย จึงได้มีการพูดคุยปรึกษากับบรรดาผู้สื่อข่าวที่รู้จักว่าอยากหาเงิน 3-4 ล้านบาทเพื่อทำบุญช่วยเหลือพระสงฆ์ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะมีแต่แหวน แต่สร้อยที่เป็นสมบัติเก่าแก่ ไม่รู้จะไปขายที่ไหน ทางผู้สื่อข่าวได้ช่วยกันทำข่าวให้ และนำของออกขายตั้งแต่ 1 ก.พ.-1 มี.ค. 52 ได้เงินมา 3 ล้านบาท แล้วก็ทำบุญหมดเลย จากนั้นก็ทำมาตลอด
กรณีถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้สืบทอดเชื้อสายมาจากกษัตริย์องค์สุดท้ายของลาวจริงหรือไม่?
เจ้าสร้อยมาลา : รู้เรื่องนี้แล้วคิดอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกก็คือ คนที่คิดอย่างนี้กับเรา สงสัยเราว่าเป็นเจ้าไม่จริงเป็นเพราะเขาอิจฉาริษยาเรา แต่ให้อภัยและไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น อย่างที่สอง เป็นเพราะเขาไม่มีสมบัติอย่างเรา โดยเฉพาะทรัพย์ภายในเป็นจิตใจที่สูงส่ง ทั้งนี้ไม่ขอโต้แย้ง ชี้แจงหรือพิสูจน์ใดๆ เพราะถ้าพูดไปชี้แจงไปก็ถูกกล่าวหาว่าแก้ตัว และไม่มีเวลาที่จะไปทำอย่างนั้น เวลามีน้อยอยู่แล้ว ต้องสวดมนต์ ต้องทำบุญ เอาเวลาไปทำบุญดีกว่า
เรื่องนี้มีผู้สื่อข่าวที่รู้จักติดต่อมาอยู่ตลอดว่าจะช่วยแก้ข่าวให้ แต่ก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะเรารู้อยู่แก่ใจของเราเองว่าความจริงเป็นอย่างไร ไม่อยากเสียเวลาไปกับการเอาชนะเพื่อยืนยันว่าเราเป็นเจ้าจริง มันไร้ประโยชน์ อีกอย่างราชวงศ์ลาวล่มสลายไปแล้ว เรารุ่นเหลนมันจะมีอะไร ใครว่าร้ายก็อยู่ที่เขา ดีก็อยู่ที่เรา นิ่งอย่างเดียวพอ สุจริตคือสัตย์ ขอทำความดีไปเรื่อยๆ ช่วยคนเยอะๆ โดยไม่เคยหวังชื่อเสียงอะไรดีกว่า
ยืนยันเป็นเจ้าจริง?
เจ้าสร้อยมาลา : เจ้าป้าไม่สนใจว่าใครจะว่ากล่าวหรือพูดถึงว่าอย่างไร ยกตัวอย่างที่บางคนบอกในเชิงส่อเสียดเราว่าเป็นเจ้าเข้าทรงหรือเปล่า เราก็ไม่เถียง เพราะเอาเข้าจริงเราก็เคยเป็นเจ้าทรงจริงๆ ด้วย เพราะช่วงเป็นเด็กสาวเคยมีเทพมาประทับร่างให้ไปช่วยรักษาคนเจ็บป่วยมากมาย อีกทั้งยังให้หวยแม่นด้วย คนเอาเลขไปซื้อก็ถูกหวยตลอดแล้วเอาเงินทองมาให้ ซึ่งเงินที่ได้มาในที่สุดก็รวบรวมนำไปทำบุญบูรณะวัดวาอารามหมด โดยเฉพาะวัดร่ำเปิง เชียงใหม่ ที่ได้ริเริ่มทำไว้ก่อนที่หลวงปู่ทอง สิริมังคโล จะเริ่ม เพียงแต่ว่าการเป็นเจ้าเข้าทรงนั้นได้เลิกไปนานแล้ว