น้ำโขงจ่อวิกฤต! นาข้าวนครพนมจมกว่าพันไร่ หนองคายท่วมบ้านเรือน-ร้านค้า

นครพนม/หนองคาย - น้ำโขงเพิ่มสูงจ่อถึงจุดวิกฤต ผู้ว่าฯ สั่งเตรียมพร้อมอำเภอพื้นที่เสี่ยง รับมือน้ำโขงเอ่อท่วม ล่าสุดนาข้าวจมน้ำเสียหายแล้วกว่าพันไร่ ด้าน จ.หนองคาย ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน น้ำระบายไม่ทันท่วมบ้านเรือนประชาชน ข้าวของเสียหาย ท่วมถนนจนเสียผิวการจราจร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ จ.นครพนม สถานการณ์น้ำโขงยังน่าเป็นห่วง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องวันละประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ล่าสุดระดับน้ำโขงอยู่ที่ระดับประมาณ 10 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตเพียงแค่ 3 เมตร คือ ที่ระดับประมาณ 13 เมตร เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำโขงหนุนเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่ม ชุมชนหมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงพื้นที่การเกษตร

ทั้งนี้ เนื่องจากลำน้ำสาขาสายหลัก ทั้งลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน ลำน้ำบัง และลำน้ำก่ำ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น และไหลระบายลงสู่น้ำโขงช้า ส่งผลกระทบให้พื้นที่ใกล้เคียงเริ่มมีปัญหาน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรแล้วกว่า 1,000 ไร่ หากมีฝนตกติดต่อกันต่อเนื่องอีกจะส่งผลให้ระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้น และส่งผลเกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมมากขึ้น

นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ช่วงนี้สถานการณ์น้ำโขงยังน่าเป็นห่วงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำโขงเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 10 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตประมาณแค่ 3 เมตร โดยทางจังหวัดนครพนม ได้ประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง ติดตามข่าวสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง ดูแลจัดเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง รวมถึงดูแลสัตว์เลี้ยงการเกษตร ทั้งเรื่องของอาหาร ไปจนถึงโรคระบาดที่มากับน้ำ พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบดูแลช่วยเหลือพื้นที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น ในพื้นที่เสี่ยงติดกับแม่น้ำโขง มี อ.นาแก อ.ธาตุพนม อ.เมือง อ.ท่าอุเทน อ.ศรีสงคราม และ อ.บ้านแพง ที่ติดกับลำน้ำสาขาสายหลัก

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าพื้นที่การเกษตรนาข้าวได้รับผลกระทบเสียหายแล้วประมาณกว่า 1,000 ไร่ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบช่วยเหลือต่อเนื่อง



หนองคายระบายไม่ทันท่วมบ้านท่วมถนน

ขณะที่ จ.หนองคาย ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ (21 ก.ค.) ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ปริมาณฝนวัดได้ 120 มิลลิเมตร ส่งผลให้ถนนมิตรภาพขาเข้าตัวเมืองหนองคายช่วงชุมชนนาทา ต.หนองกอมเกาะ น้ำระบายลงท่อระบายน้ำไม่ทัน ทำให้น้ำท่วมถนนกินผิวจราจรไปสองช่องทาง รถทุกชนิดต้องใช้ช่องทางจราจรช่องขวาสุดเพียงช่องเดียวเป็นระยะทางประมาณ 200 เมตร รถหลายคันไม่ทราบว่ามีน้ำท่วมผิวจราจรด้านหน้า ขณะที่ขับมาด้วยความเร็วเกือบเกิดอุบัติเหตุหลายคัน

โดยฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้บ้านของนางสุภี นิราชคำ อายุ 81 ปี เลขที่ 114 ชุมชนนาทา และบ้านที่เปิดเป็นบริการรับส่งสินค้า 3-5 หลัง ถูกน้ำท่วม เก็บข้าวของไม่ทัน ข้าวของได้รับความเสียหาย ระดับน้ำท่วมในตัวบ้านสูงประมาณ 60 เซนติเมตร


นายโอเล่ สมศรีหา ชาวบ้านบอกว่า เวลาที่ฝนตกหนักบริเวณนี้น้ำจะท่วมทุกครั้ง เนื่องจากท่อน้ำมีขนาดเล็ก และเป็นช่วงรับน้ำจากชุมชนถัดไป รวมถึงบริเวณศูนย์ราชการ น้ำจะไหลมาทางนี้ก่อนจะไหลลงท่อระบาย ซึ่งอาจจะมีท่อตันทำให้น้ำระบายไม่สะดวกก็เป็นได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาดำเนินการแก้ไขให้ด้วย