น่าน/เชียงราย - พายุโซนร้อนตาลัสพ่นพิษ ทำฝนตกต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน น้ำป่าทะลักท่วมถนนน่าน-ภูเพียง สะพานขาดสะบั้นหลายพื้นที่ โรงเรียนน่านนคร-โรงเรียนบ้านส้าน เมืองปัว จมบาดาล ส่วนน้ำสาย ชายแดนไทย-พม่า ล้นตลิ่ง ร้านค้าใต้สะพานต้องปิด ขนของหนีกันวุ่น
วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุโซนร้อนตาลัสได้ส่งผลกระทบหลายจังหวัดในภาคเหนือแล้ว โดยที่จังหวัดน่านมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ระดับน้ำในลำน้ำต่างๆ สูงขึ้น และเกิดน้ำท่วมฉับพลันบนถนนเส้นทางน่าน-ภูเพียง เขตบ้านท่าล้อ-แสงดาว ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร รถจักรยานยนต์ และรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่มีพื้นที่ลาดต่ำติดกับแม่น้ำน่านกว่า 20 หลังคาเรือน
ขณะที่น้ำจากลำน้ำแก่น เขต ต.นาปัง อ.ภูเพียง ก็มีระดับสูงขึ้นจนแตะจุดวิกฤต กระแสน้ำเริ่มล้นทะลักเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม และโรงเรียนน่านนครต้องประกาศปิดการเรียน-การสอนในวันนี้ เพื่อเตรียมย้ายสิ่งของ อุปกรณ์การเรียนการสอนหนีน้ำ
เช่นเดียวกับที่โรงเรียนบ้านส้าน ต.สถาน อ.ปัว ก็ถูกน้ำป่าทะลักเข้าท่วมอาคารเรียนชั้นล่าง อาคารชั้นอนุบาล ครูและนักเรียนต้องช่วยกันเก็บย้ายหนังสือ อุปกรณ์การเรียนขึ้นที่สูงกันอย่างโกลาหล
นอกจากนี้ กระแสน้ำป่าที่เชี่ยวกรากได้ซัดสะพานบ้านน้ำตวง หมู่ 9 ต.น้ำพาง อ.แม่จริม ขาดสะบั้น ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยเฉพาะชาวบ้านสว่าง ม.10 โดยทางอำเภอได้ประสานกับแขวงการทางน่าน ที่ 1 ให้เข้าประเมินสถานการณ์ และขอสะพานแบริ่งมาแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีฝนตกลงมา และเร่งออกสำรวจสถานการณ์น้ำ และช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดริมน้ำขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
ส่วนที่เชียงราย ระดับน้ำสายสำคัญ เช่น แม่น้ำจัน, แม่น้ำคำ, แม่น้ำกก, ลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า ฯลฯ เริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบางจุดน้ำได้เข้าเอ่อท่วมถนน-บ้านเรือนประชาชนที่้ตั้งอยู่ในที่ลุ่มแล้ว เช่น ร้านค้าใกล้สะพานข้ามลำน้ำสาย จนต้องปิดร้านชั่วคราวเพราะน้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วม
ส่วนร้านค้าริมน้ำสายที่เคยถูกน้ำท่วมขังในช่วงหลายปีก่อนต่างหวาดผวา เร่งขนย้ายสินค้าไว้บนพื้นที่สูง เพื่อเตรียมการรองรับน้ำที่อาจจะเอ่อล้นฝั่งขึ้นเช่นกัน
ส่วนที่ตลาดเทศบาล ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย พบว่าน้ำจากลำน้ำแม่ส้าน, ลำน้ำแม่ปอน ได้พัดพาเอาเศษวัชพืชและกิ่งไม้จำนวนมากกีดขวางทางน้ำ ทำให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันนำออกอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมตลาด-ชุมชนที่อยู่อาศัยหนาแน่นบริเวณดังกล่าว
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก-ดินถล่ม พร้อมทั้งให้ อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร แจ้งข้อมูลให้ประชาชนทราบโดยตรง และให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ให้เตรียมสถานที่ปลอดภัย จุดอพยพ จุดพักพิง กรณีที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากหากมีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 90 มิลลิเมตรภายใน 24 ชั่วโมงให้อพยพประชาชนไปยังจุดปลอดภัยได้ต่อไป
ส่วนที่เชียงใหม่ หลังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ลำน้ำฝางระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านในท้องที่ อ.ไชยปราการแล้ว