xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบึงกาฬตื่น! พบไหโบราณกลางทุ่งนา คาดอายุเท่าไหบ้านเชียง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ นำหน่วยงานรัฐและสื่อมวลชน ตรวจสอบวัตถุโบราณ
บึงกาฬ - สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬลงพื้นที่ตรวจสอบวัตถุโบราณที่บ้านห้วยสามยอดเทวกุล อ.เมืองบึงกาฬ หลังพบไหหลายขนาด กำไลหยก กำไลสำริด มีด เบื้องต้นยังไม่รู้อยู่ในสมัยใด คาดอายุเท่าวัตถุโบราณบ้านเชียง รอผู้เชี่ยวชาญหน่วยศิลปากรที่ 8 ตรวจสอบ วอนชาวบ้านช่วยรักษา อย่านำไปขายถือว่าผิดกฎหมาย

วันนี้ (18 ก.ค. ) นายขัตติยา ชัยมณี ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบึงกาฬ และทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีชาวบ้านพบวัตถุโบราณจำนวนมาก ในทุ่งนาบ้านห้วยสามยอดเทวกุล หมู่ 6 ต.โป่งเปือย อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

จุดที่พบวัตถุโบราณครั้งนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้านห้วยสามยอดเทวกุลประมาณ 2.6 กิโลเมตรไปทางทิศใต้ เส้นทางบ้านห้วยสามยอด-บ้านหนองตะไก้ แล้วเดินแยกไปตามถนนลงทุ่งนาอีกประมาณ 200 เมตรก็จะถึงจุดที่พบวัตถุโบราณ ซึ่งเป็นที่นาเพิ่งปลูกข้าวไปประมาณ 2 เดือน มีนายสุบรรณ กมลภา อายุ 70 ปี เจ้าของที่นาบริเวณดังกล่าว วัตถุโบราณอยู่บนคันนาที่มีความกว้างประมาณ 120 เซนติเมตร และเป็นนาดินทราย

จุดแรกที่พบอยู่มุมคันนา พบไหดินเผาสูงประมาณ 70 เซนติเมตร กว้าง 67 เซนติเมตร และไหเล็กๆ สูงประมาณ 30 เซนติเมตร กว้าง 32 เซนติเมตร อีกจำนวน 6 ใบ โผล่ให้เห็นอยู่ข้างคันนา และในไหใบใหญ่นี้พบมีด 1 เล่มวางอยู่ใต้ก้นไห น้ำหนักประมาณ 110 กรัมสภาพผุกร่อนสนิมจับเกรอะ ห่างออกไป 50 เมตรพบไหใบใหญ่อยู่กลางคันนาสูงประมาณ 65 เซนติเมตร กว้าง 58 เซนติเมตร ด้านในพบกำไลหยกขาวใส 6 เหลี่ยม 1 วง สภาพสมบูรณ์

กำไลสำริดสีเขียวลวดลายสวยงาม 2 วง สภาพแตกบิ่น เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตรเท่ากัน และมีไหใบรองลงมาอีก 3 ใบฝังอยู่ในคันนาติดกัน นอกจากนี้ยังพบลูกปัดเล็กๆ สีน้ำตาลและสีต่างๆ อีกจำนวนมาก มีด 2 เล่ม และอีกชิ้นน่าจะเป็นปิ่นปักผม 1 อัน และมีกระดูกจำนวนหนึ่ง ส่วนสภาพไหด้านนอกมีลวดลายคล้ายหนังไก่ บางลายเป็นเส้นนูนทางยาวสีน้ำตาลอ่อน ส่วนด้านในไหเป็นสีดำหนาประมาณ 1 เซนติเมตร


นายถาวร สังขะมาน ปลัดอาวุโส อ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายร่วมกันเข้ามาดูวัตถุโบราณ จากที่ดูยังไม่รู้ว่าอยู่สมัยไหน ซึ่งเจ้าของที่นานำวัตถุโบราณส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่บ้าน ที่เหลือยังอยู่ทุ่งนา ซึ่งทางอำเภอเมืองได้ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประสานไปยังหน่วยศิลปากรที่ 8 ให้มาตรวจสอบแล้ว ต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่งจะได้ความชัดเจน

เบื้องต้นได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สร้างความเข้าใจกับประชาชนป้องกันการถูกหลอกลวง เพราะอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โอกาสนี้มาหลอกลวงประชาชนได้ และจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปติดป้ายหวงห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าไปขุดค้นหรือนำวัตถุโบราณออกมาจะถือว่าผิดกฎหมาย



นายขัตติยา ชัยมณี ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬได้ประสานไปยังศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และจากนี้จะได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านเรื่องขุดค้นวัตถุโบราณ ให้พี่น้องช่วยกันรักษาไว้อย่าให้ใครมาหลอกซื้อ หรือขายไป เพราะเป็นสมบัติที่มีคุณค่าของชาวบ้านเรา คาดว่าอายุจะเท่ากับไหดินบ้านเชียง ที่ จ.อุดรธานี และในอนาคตอาจจะพัฒนาพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
กำลังโหลดความคิดเห็น