xs
xsm
sm
md
lg

ที่ดินจังหวัดฯ เต้นแจงยิบ ปมทายาทนักการเมืองขอออกโฉนดทับที่คนแพร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แพร่ - เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดฯ ร่อนหนังสือแจงละเอียดยิบ ปมชาวบ้านร้องทายาทนักการเมืองดังขอออกโฉนดทับที่ ส.ค.1 ขณะที่ชาวบ้านชี้พิรุธ เลขที่ดินต่างกัน แต่ระวางที่ทับกันเฉย เชื่อไม่ชอบมาพากลชัวร์

วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหากรณีชาวบ้านร้องเรียนว่า ทายาทนักการเมืองออกโฉนดที่ดินทับที่ ส.ค.1 บริเวณหมู่ 2 ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ว่า ล่าสุด นายดุสิต บริสุทธิ์ศรี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดแพร่ ได้ทำหนังสือเลขที่ 0020.07 / 8600 ชี้แจงต่อ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ศูนย์ดำรงธรรม

โดยระบุถึงข้อพิพาทการออกโฉนดที่ดินให้แก่นายปารย์ ปราศจากศัตรู บุตรชายของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีต ส.ส.แพร่ พรรคประชาธิปัตย์ และ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดแพร่ ว่า ขณะนี้ได้มีหนังสือถึงผู้ร้องเรียน เพื่อเชิญมาให้ข้อมูลเพื่อรับทราบกระบวนการตามขั้นตอนแล้ว และได้มีหนังสือถึงนายอำเภอหนองม่วงไข่ เพื่อขอให้แจ้งนายรัฐกานต์ จันทนู กำนันตำบลวังหลวง ให้เร่งปิดประกาศ พร้อมส่งรายงานการปิดประกาศการออกโฉนดที่ดินให้กับนายปารย์ ปราศจากศัตรู ตามกฎหมาย เพื่อจะได้เรียกผู้คัดค้านจำนวน 30 ราย และผู้ขอออกโฉนดที่ดิน ที่ทำการสอบสวนเปรียบเทียบให้เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบมาตรา 60 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

นายดุสิต บริสุทธิ์ศรี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดแพร่ ได้ชี้แจงพร้อมทั้งเสนอหนังสือหลักฐานรายงานไปยังอธิบดีกรมที่ดิน ให้รับทราบแล้วเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 60 ตามหนังสือที่ พร.0020.07 / 8520 ว่า กรณีที่มีข่าวทางสื่อมวลชน ก็ได้สั่งการให้สำนักงานที่ดินจังหวัดแพร่ สาขาร้องกวาง ออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

กรณีนายปารย์ ปราศจากศัตรู ได้ยื่นคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย จำนวน 5 แปลง เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 58 โดยอาศัยหลักฐาน น.ส.3 ก. เลขที่ 1446, 1457, 1458, 1482 และ 1483 พื้นที่ ต.วังหลวง อ.หน่องม่วงไข่ ได้ทำการรังวัดแล้วเสร็จจำนวน 3 แปลง มีผู้คัดค้านทั้ง 3 แปลง จำนวน 30 คน ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างประกาศยังไม่ครบ 30 วัน

ส่วนปัญหาไม่สามารถปิดประกาศแจกโฉนดที่ดินให้กับนายปารย์ ปราศจากศัตรู ณ ที่ทำการกำนัน ต.วังหลวง ได้นั้น จากการทำหนังสือสอบถามถึงนายรัฐกานต์ จันทนู กำนัน ต.วังหลวง ปรากฏว่ากำนันฯ ยังไม่ลงนามในรายงานปิดประกาศแต่อย่างใด อีกทั้งไม่ยินยอมให้เจ้าพนักงานที่ดินเข้าไปปิดประกาศ จึงไม่สามารถดำเนินการตามมาตรา 60 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินได้

นายดุสิตยังได้รายงานต่อกรมที่ดินอีกว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 60 เจ้าหน้าที่รังวัด ได้ออกไปทำการรังวัดออกโฉนดที่ดินของนางชนัญญา อินทร์ทอน ตามคำขอ ที่อาศัยหลักฐาน ส.ค.1 เลขที่ 236 และรายนางนิศาชล ในเวียง อาศัยหลักฐาน ส.ค.1 เลขที่ 236 ซึ่งผู้ขอทั้งสองเป็นผู้คัดค้านการออกโฉนดของนายปารย์ ปราศจากศัตรู ซึ่งทางนายปารย์ก็ได้ส่งผู้แทนเข้ามาคัดค้านการออกโฉนดของทั้งสองแปลงด้วย

นางชนัญญา อินทร์ทอล ผู้คัดค้านการรังวัดออกโฉนดที่ดินของนายปารย์ กล่าวว่า จากหนังสือของสำนักงานที่ดินทั้งสองฉบับทำให้ทราบว่ามีที่ดิน ส.ค.1 ทับซ้อนกัน และคู่กรณีถืออยู่คนละใบ กรณีเช่นนี้ศูนย์ดำรงธรรมฯ ไม่ควรมองแค่ยุติปัญหา แต่ควรมองว่าที่ดิน ส.ค.1 มากกว่า 2 แปลง คนละหมายเลข แต่มาทับซ้อนกันได้อย่างไร ซึ่งชาวบ้านพร้อมที่จะนำสืบหลักฐานเก่ากว่านั้นด้วย

“ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องการทำงานของสำนักงานที่ดิน ที่มีการออกโฉนดที่ไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน ความจริงแล้วระวางของเอกสารสิทธิที่ดินแต่ละฉบับต้องไม่ตรงกัน เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องไกล่เกลี่ย แต่ต้องหาผู้ที่ทำผิดมาลงโทษ เพราะทำให้ประชาชนไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย ชาวบ้านพร้อมเปิดข้อมูลประวัติการถือครองทั้งเอกสาร และบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมดเพื่อยืนยัน”



กำลังโหลดความคิดเห็น