กาฬสินธุ์ - อนุกรรมการการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ จ.กาฬสินธุ์ กลั่นกรองเข้มเอกสารขอสินเชื่อวงเงิน 186 ล้านบาท หลังผู้ประกอบการยื่นขอกู้จำนวนมาก ด้าน ปธ.คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนฯ เชื่อเม็ดเงินก้อนนี้จะนำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ขณะที่ SME BANK เพิ่งอนุมัติปล่อยกู้เพียง 1 ราย วงเงิน 3 ล้านบาท เหลือมากถึง 183 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานอุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ นายมงคล อดทน รอง ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ ประจำ จ.กาฬสินธุ์ นายรังสรรค์ สิงหบุตร อุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ นายธีระเดช ภูจำปา ผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME BANK) สาขากาฬสินธุ์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมอย่างพร้อมเพรียง
จากมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบจัดตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ และตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2560 ทั้งประเทศวงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนสนับสนุนเอสเอ็มอีให้มีการพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง ตามยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศ ยกระดับสถานประกอบการ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สอดคล้องนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับการจัดสรรจำนวน 186 ล้านบาท
นายมงคล อดทน รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ได้ประกาศให้ธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ฯ เช่น ธุรกิจประเภทอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับคุณภาพ อุตสาหกรรมเกษตรเชิงประสิทธิภาพและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต อุตสาหกรรมชีวภาพ พลังงาน เคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิตอล รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาการผลิต การแปรรูป อาหารปลอดภัย พืชเศรษฐกิจครบวงจร ยุทธศาสตร์ยกระดับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญา ยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพของจังหวัด ยื่นคำขอสินเชื่อ กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท/ปี กำหนดระยะเวลา 7 ปี
นายมงคลระบุว่า ได้เปิดรับสมัครรอบแรกระหว่างวันที่ 9 พ.ค.ถึงวันที่ 9 มิ.ย. ก่อนที่จะขยายเวลาในรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 13 มิ.ย.ถึงวันที่ 12 ก.ค. เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจหรือผู้ประกอบการฯ ได้เข้ามาขอกู้สินเชื่อดังกล่าวอย่างทั่วถึง ซึ่งขณะนี้มีมายื่นความจำนงเข้ามาแล้ว 27 ราย ผ่านการพิจารณาเห็นชอบในหลักกา 23 ราย วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท ยังเหลืออยู่อีก 36 ล้านบาท
“เชื่อว่าหลังปล่อยกู้เม็ดเงินก้อนนี้ออกไปสู่ธุรกิจและผู้ประกอบการจะเกิดการต่อยอด ยกระดับและพัฒนา ให้มีการสร้างรายได้ นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ทางเศรษฐกิจของ จ.กาฬสินธุ์ได้เป็นอย่างดี” นายมงคลกล่าว และว่า คณะอนุกรรมการการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ ประจำ จ.กาฬสินธุ์ มีความตั้งใจสนับสนุนและช่วยเหลือ ผู้ประกอบการที่ขาดเงินทุนและต้องการต่อยอดธุรกิจได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนตามหลักเกณฑ์ที่กองทุนฯ กำหนด โดยให้คำปรึกษา พิจารณาตรวจสอบแผนโครงการ ซึ่งหากเข้าเงื่อนไขก็จะมีมติเห็นชอบในหลักการ และส่งให้ SME BANK ตรวจสอบอีกขั้นหนึ่งก่อนทำการอนุมัติสินเชื่อ
ด้านนายธีระเดช ภูจำปา ผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME BANK) สาขากาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับเอกสารขอกู้สินเชื่อจากธุรกิจหรือผู้ประกอบการฯแล้ว จะทำการพิจารณาสินเชื่อ วิเคราะห์สถานภาพทางการเงินของผู้ขอกู้อย่างละเอียดซึ่งจะต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะจะช้าในขั้นตอนการตรวจสอบเครดิตบูโร งบการเงินของธุรกิจและส่วนตัวผู้มีอำนาจ
อย่างไรก็ตาม วันที่ 21 ก.ค.หลังปิดรับสมัครจะได้ทราบคำตอบว่าธุรกิจใดได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้าง ทั้งนี้เพิ่งปล่อยสินเชื่อไปเพียง 1 ราย วงเงิน 3 ล้านบาท เหลือที่จะอนุมัติอีก 183 ล้านบาท
