สุโขทัย - ความหวังสุดท้าย.. “เหยื่อแรงงานไทยในลิเบีย” ร้องทหารช่วยนักรบแรงงานไทยนับพันๆ คนทั่วประเทศ หลังกู้หนี้ยืมสินจ่ายค่าหัวคิวไปทำงานในลิเบีย พอไปถึงโดนจับเซ็นสัญญาภาษาแขก-ได้งานไม่ตรงตามข้อตกลง-เงินไม่ออก เจอสงครามซ้ำต้องเผ่นกลับ
นายพิสิษฐ์ หรือมานะ พึ่งกล่อม พร้อมด้วยนายสามารถ ท้าวชัยวงษ์ ชาว อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย และตัวแทนผู้ใช้แรงงานจากแพร่, ลำปาง, ตาก และสุโขทัย รวม 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.ทรงวุฒิ จิตตานนท์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.สุโขทัย เมื่อเร็วๆ นี้ หลังได้รับความเดือดร้อนจากการไปทำงานในประเทศลิเบีย แต่ไม่ได้รับเงินค่าแรงตามสัญญาจ้างงาน
นายพิสิษฐ์กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2552 ตน และพี่น้องแรงงานไทยหลายจังหวัดรวมหลายพันคนได้เดินทางไปทำงานที่ลิเบีย ทันทีที่ไปถึงทางบริษัทจัดส่งก็นำเอกสารภาษาแขกมาให้เซ็นสัญญาจ้างงานใหม่ทันที โดยไม่รู้ว่าถูกเอาเปรียบ และตำแหน่งงานกับเงินเดือนก็ไม่ตรงกับที่คุยไว้ในตอนแรก แต่ก็ต้องจำยอมเพราะกลัวไม่ได้งานทำ กระทั่งผ่านไป 3 เดือนเงินไม่ออก ก็เดือดร้อนกันหมด
เนื่องจากไม่มีเงินส่งกลับมาผ่อนชำระหนี้ที่กู้ยืมมาจ่ายเป็นค่าเดินทาง ซึ่งบางรายต้องเอาบ้าน ที่ดิน ที่นา และรถยนต์ไปจำนองกู้เงินมาจ่ายค่าหัวคิวเพื่อให้ได้เดินทางมาทำงานที่ลิเบีย โดยมีเสียเงินตั้งแต่รายละ 68,000 บาท ไปจนถึงเกือบ 200,000 บาท ทว่าทำงานกันได้ไม่กี่เดือนก็ต้องเดินทางกลับประเทศไทยเพราะเกิดภัยสงครามขึ้นภายในประเทศลิเบีย
นายพิสิษฐ์กล่าวอีกว่า เมื่อตน และเพื่อนๆ ผู้ใช้แรงงานด้วยกันกลับมาถึงบ้าน แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องค่าแรงตามสัญญาจ้าง 2 ปี แถมโดนบริษัทจัดส่งฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทซ้ำอีก แต่ก็สู้กันจนชนะคดีมาได้ แล้วตนก็ฟ้องกลับในเรื่องของการกระทำผิดสัญญาจ้าง, เงินเดือน-โอทีค้างจ่าย, เรียกเก็บค่าบริการ (หัวคิว) เกินกว่ากฎหมายกำหนด และค่าเสียโอกาส ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ที่ผ่านมาศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ตนเป็นผู้ได้รับค่าชดเชย
“ก่อนหน้านี้ผมไปร้องขอความเป็นธรรมมาแล้วหลายแห่ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ทหารจึงเป็นความหวังสุดท้าย จึงได้พากันมาขอความช่วยเหลือประสานไปยังเหยื่อแรงงานลิเบีย ซึ่งเฉพาะใน อ.ทุ่งเสลี่ยม ก็มีกว่า 100 คน และอีก 35 จังหวัดรวมกันก็หลายพันคน เพราะพวกเขาควรได้สิทธิในการรับเงินค่าชดเชย ให้ต้องเร่งรวบรวมเอกสารหลักฐานยื่นฟ้องเพิ่มโดยเร็ว เพราะคดีจะหมดอายุความภายใน 2 ปีนี้ หรือติดต่อมาที่ 06-1317-6092 และ 08-7841-1741 ก็ได้” นายพิสิษฐ์กล่าว