ย้ำรถขนน้ำมันส่งออก สปป.ลาว 8 คันไม่ได้คืนภาษีแน่ เล็งใช้ พ.ร.บ.ศุลกากรเอาผิดทั้งขบวนการฯ

หนองคาย - ศุลกากรหนองคายหารือกับสรรพสามิตพื้นที่หนองคายดำเนินคดีขบวนการลักลอบนำน้ำมันผิดประเภทและไม่ตรงกับเอกสารไป สปป.ลาว ยันดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากรเป็นหลัก ส่วนรถทั้ง 8 คันจะไม่ได้รับการคืนภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งข้อสรุปร่วมต้องตรวจรถขนน้ำมันทุกคันและตรวจทุกช่อง พร้อมชั่งน้ำหนักรถบรรทุกน้ำมันทั้งก่อนไปและกลับจาก สปป.ลาว

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่หนองคายร่วมกันจับกุมขบวนการลักลอบนำน้ำมันผิดประเภทและแจ้งเอกสารเท็จต่อเจ้าหน้าที่ เป็นรถบรรทุกน้ำมัน 8 คัน คนขับรถ 8 คน ที่สามารถขอคืนภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มได้คันละกว่า 4 แสนบาท ตรวจสอบพบแอบนำน้ำมันเบนซินจากโรงกลั่นไปขายตามจังหวัดปริมณฑล แล้วสวมรอยเอาน้ำมันดีเซลใส่แทนก่อนนำส่งไป สปป.ลาว เมื่อวันที่ 7ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (11 ก.ค. 60) นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีและมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกว่า วันนี้ได้หารือร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่หนองคาย ซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากรเป็นหลักและเป็นกฎหมายนำ ซึ่งจะดำเนินคดีในอัตราโทษสูงสุด เป็นการปรับนอกเกณฑ์ คันละ 50,000 บาทและยึดน้ำมันที่อยู่ในรถ โดยจะส่งเรื่องไปที่กรมศุลกากร ส่วนกฎหมายของสรรพสามิตนั้นจะดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่เบื้องต้นทั้ง 8 คันจะไม่ได้รับการคืนภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างแน่นอน

การหารือได้กำหนดมาตรการป้องกันร่วมกัน คือรถบรรทุกน้ำมันที่จะส่งออกไป สปป.ลาวทุกคันจะต้องถูกตรวจทุกคันและทุกช่องบรรทุกน้ำมัน พร้อมชั่งน้ำหนักกำกับทั้งก่อนไป สปป.ลาว และหลังกลับจาก สปป.ลาว โดยใช้ลานตรวจของศุลกากรหนองคายเป็นการตรวจร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่หนองคาย ซึ่งมาตรการนี้จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและคงไว้ไม่มีกำหนด เพื่อไม่ให้กลุ่มขบวนการลักลอบฯ กลับมาอีก

สำหรับการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ สปป.ลาว โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ภาษีลาว (ศุลกากรลาว) นั้น ที่นัดกันไว้วันนี้ (11 ก.ค.) ได้แจ้งเลื่อนนัดไปก่อน เนื่องจากช่วงเย็นวานนี้และวันนี้ผู้ใหญ่ของรัฐบาล สปป.ลาวได้เข้ามาตรวจติดตามเรื่องนี้ที่คลังสินค้าและคลังน้ำมันที่ตั้งอยู่ท่านาแล้ง รวมทั้งตรวจที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพลาว-ไทย พร้อมมีการกำชับการตรวจปล่อยน้ำมัน

คาดว่าคงได้ดูข่าวการจับกุมที่ฝั่งไทย จึงทำให้ผู้ใหญ่ของรัฐบาล สปป.ลาวลงมาตรวจดูพื้นที่ แต่จะต้องมีการคุยกันในเรื่องนี้แน่นอน หากเจ้าหน้าที่ของ สปป.ลาวไม่พร้อมจะมาหารือกับเราในวันนี้ พรุ่งนี้ตนพร้อมเจ้าหน้าที่อาจจะต้องเดินทางข้ามไปพบเอง โดยเฉพาะเรื่องข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนกันจะต้องใช้ให้เกิดประโยชน์

ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของไทยอาจจะไม่ได้ตรวจรถบรรทุกสินค้าโดยเฉพาะรถน้ำมันทุกคัน เนื่องจากคิดว่าข้อมูลที่ไทยส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ของ สปป.ลาวจะช่วยในการตรวจเพราะเป็นสินค้าเข้า สปป.ลาวที่ต้องมีการเก็บภาษีเป็นรายได้เข้าประเทศ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแสดงว่าต้องมีข้อผิดพลาดที่ต้องร่วมกันแก้ไขและป้องกัน