xs
xsm
sm
md
lg

ห่วงชาวนาอีสานปลูกข้าวได้ผลผลิตต่ำ ทุ่มแปลงสาธิตใช้ปุ๋ยถูกสูตร ถูกวิธีทำกำไรเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวัชระ ปิงสุทธิวงศ์ เจ้าหน้าที่บริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ห่วงชาวนาอีสานปลูกข้าวได้ผลผลิตน้อย ต้นทุนสูง ไทยเซ็นทรัลเคมี ผนึกกรมส่งเสริมการเกษตร ดันโครงการสนับสนุนการจัดทำแปลงต้นแบบขยายผลใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนผลิต เผยทำแปลงทดลองที่ จ.ขอนแก่น ดึงนักวิชาการร่วมถ่ายทอดความรู้ ใช้หลักวิเคราะห์ดิน ก่อนใส่ปุ๋ยให้ถูกสูตร ถูกเวลา ถูกอัตรา และถูกวิธี ชี้ประโยชน์ลดต้นทุนค่าปัจจัยผลิตลงได้ พืชได้ธาตุอาหารครบ ได้ผลผลิตข้าวสูงขึ้น ทั้งยังสอดรับต่อนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ เล็งขยายผลในอนาคต

เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี จัดกิจกรรมชมแปลงต้นแบบการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพาะปลูกข้าว ที่บ้านห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้จัดทำแปลงต้นแบบเพื่อหวังยกระดับความรู้ความเข้าใจเรื่องดินและปุ๋ยให้แก่เกษตรกร ให้สามารถจัดการดิน และใช้ปุ๋ยเคมีอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อชนิดของดินและความต้องการธาตุอาหารของพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายวัชระ ปิงสุทธิวงศ์ เจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี เปิดเผยว่า เป็นโครงการที่กรมส่งเสริมการเกษตร จัดทำขึ้นภายใต้โครงการสนับสนุนการจัดทำแปลงต้นแบบขยายผลการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพื่อยกระดับความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรให้สามารถจัดการดิน และใช้ปุ๋ยเคมีอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อชนิดดิน และความต้องการธาตุอาหารของพืช เพิ่มปริมาณ และคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุนผลิต และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร

บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร ให้การสนับสนุนปัจจัยการผลิตคือ ปุ๋ยเคมี มุ่งขยายผลการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพื่อลดต้นทุนผลิต และทำแปลงต้นแบบขยายผลการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนผลิตในพืช 4 ชนิด โดยแปลงทดลองที่ขอนแก่นเป็นข้าวไวแสง ปลูกที่บ้านห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น จะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาให้ความรู้ความเข้าใจการทำเกษตรที่ถูกต้องแก่เกษตรกรอย่างครบวงจร

“ปัญหาที่ผ่านมา เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้ปุ๋ยบำรุงพืชแบบผิดๆ มักทำตามความเชื่อกันมาว่ายิ่งใส่ปุ๋ยเคมีมาก จะทำให้พืชได้ผลผลิตมาก ข้อเท็จจริงแล้วไม่ใช่ ทำให้สิ้นเปลือง เกิดสารตกค้าง และผลผลิตไม่สูงขึ้นจริง การใช้ปุ๋ยจำเป็นต้องใช้หลักวิชาการมาประยุกต์ทำการวิเคราะห์ดิน ว่าขาดธาตุอาหารชนิดใดบ้าง ต้องอาศัยนักวิชาการ หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วย จากนั้นจึงใส่ปุ๋ยตามสัดส่วนที่พืชต้องการ” นายวัชระ กล่าวและว่า

ประโยชน์คือ แปลงปลูกข้าวที่ได้รับการวิเคราะห์ดิน จะใช้ปุ๋ยบำรุงดินได้ตรงความต้องการของพืช ไม่ต้องใส่ปุ๋ยปริมาณมากตามความเชื่อ ขณะที่ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น ชาวนาลดต้นทุนค่าปุ๋ย การจัดการ ทั้งสามารถขายข้าวมากขึ้น มีรายได้สูงขึ้น

เบื้องต้น มี นายสุวรรณ ศรีสุพรรณ อายุ 44 ปี นายเพลิน จันทร์โนนแซง อายุ 61 ปี ชาวบ้านบ้านห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าร่วมโครงการจัดทำแปลงต้นแบบขยายผลการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยใช้ปุ๋ยให้ถูกสูตร ถูกเวลา ถูกอัตรา และถูกวิธี โดยแปลงสาธิตใช้ปุ๋ยในนาข้าวที่กรมส่งเสริมการเกษตรฯ แนะนำ ซึ่งนาข้าวของนายสุวรรณ และนายเพลิน ปลูกข้าวเหนียวพันธุ์ กข 41 วันปลูก 17 มี.ค. 2560 ใส่ปุ๋ยครั้งที่หนึ่ง 30 มี.ค. ใส่ปุ๋ยครั้งที่สอง 18 พ.ค. และจะเริ่มเก็บเกี่ยว 30 มิ.ย.นี้

ด้าน นายสุวรรณ ศรีสุพรรณ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในแปลงทดลอง จ.ขอนแก่น บอกว่า ภายหลังเข้าร่วมโครงการจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่างๆ ทั้งจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และบริษัทเอกชนมาให้ความรู้ คำแนะนำการปลูกข้าว ด้วยการใช้ปุ๋ยอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะการจัดการดิน และใช้ปุ๋ยเคมีอย่างถูกต้อง เหมาะสมต่อชนิดของดิน และสอดคล้องต่อความต้องการธาตุอาหาร

“ที่ผ่านมา ชาวนาอย่างพวกเรามักจะทำนากันแบบเดิมๆ ที่ปู่ย่าตายายทำต่อๆ กันมา แต่ปัจจุบันเทคโนโลยี และนวัตกรรมเกี่ยวกับการทำนาเปลี่ยนแปลงไปมาก พวกตนก็ต้องปรับตัวเอง นำความรู้ที่ได้รับการแนะนำจากนักวิชาการมาใช้ ว่า ใช้ปุ๋ยชนิดใดที่เหมาะสมต่อสภาพดิน ดินที่ปลูกข้าวต้องการธาตุชนิดใดมากกว่ากัน หากใช้ปุ๋ยในสัดส่วนที่เหมาะสมต่อดิน นาข้าวก็จะให้ผลผลิตสูงขึ้น ประหยัดต้นทุนมากขึ้น” นายสุวรรณ กล่าว

ขณะที่ นายเพลิน จันทร์โนนแซง เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ เช่นกัน ให้เหตุผลที่เข้าร่วมโครงการนี้ว่า เพราะเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะการที่เกษตรกรมีต้นทุนในการทำเกษตรที่ต่ำลง โดยเฉพาะปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญ หากใช้อย่างถูกสูตร ถูกเวลา ถูกอัตรา และถูกวิธี ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ จะทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้มาก นั่นหมายถึงรายได้จะเพิ่มขึ้นด้วย

“โครงการสนับสนุนการจัดทำแปลงต้นแบบขยายผลการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิตครั้งนี้ จะสอดรับต่อนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้ ที่มุ่งต้องการให้เกษตรกรรวมกลุ่มทำการเพาะปลูก การต่อรองซื้อปัจจัยการผลิต ต่อรองด้านราคา และการตลาด ซึ่ง บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี พร้อมขยายผลโครงการไปสู่เกษตรกรในวงกว้าง เพื่อให้เกษตรสามารถลดต้นทุน มีผลผลิตที่สูงขึ้น สร้างอำนาจการต่อรองตามเจตนารมณ์ของรัฐ” นายวัชระ กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น