บุรีรัมย์ - ชาวบ้านหลายอำเภอ จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรม อ.สตึก และแจ้งจับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตร เบี้ยวเงินค่าจัดการศพสมาชิกกว่า 300 ราย ร่วม 40 ล้าน นายกสมาคมฯ อ้างเก็บเงินสมาชิกไม่ได้ ทั้งที่เก็บล่วงหน้าทุกปี บางรายถึงกับร่ำไห้เหตุไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาจัดงานศพก่อน แต่กลับไม่ได้รับสินไหมทดแทนจากสมาคมฯ
วันนี้ (30 มิ.ย.) ชาวบ้านจากหลายอำเภอ ประกอบด้วย อ.สตึก อ.บ้านด่าน และ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสตึก ให้ช่วยเหลือ หลังถูกทางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก จำกัด เบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินสินไหมทดแทน หรือค่าจัดการศพให้แก่ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิตรายละตั้งแต่ 120,000-150,000 บาท รวมกว่า 300 ราย เป็นเงินร่วม 40 ล้านบาท
โดยสมาชิกเสียชีวิตมาแล้ว 2-3 ปี แต่กลับไม่ได้รับเงินจากทางสมาคมฯ แม้แต่บาทเดียว บางรายไปทวงถามจ่ายมาเพียง 10,000-20,000 บาท ซึ่งไม่ตรงตามจำนวนข้อบังคับของสมาคมฯ ที่ระบุไว้ว่ากรณีเสียชีวิต หากมีสมาชิกจำนวนเท่าไรจะจ่ายค่าจัดการศพคูณด้วย 15 บาท ซึ่งปัจจุบันมีสมาคมมีสมาชิกอยู่กว่า 9,000 คน ดังนั้น หากสมาชิกที่เสียชีวิตจะต้องได้รับเงินสินไหมทดแทนจากทางสมาคมฯ ประมาณ 135,000 บาท
เบื้องต้น ทางศูนย์ดำรงธรรม จึงได้เรียกตัวแทนสมาคมฯ มาเจรจาไกล่เกลี่ยกับชาวบ้านที่มาร้องเรียนขอความช่วยเหลือ จากนั้น นายเหลา ชื่นรัมย์ นายกสมาคมฯ ได้เดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากชาวบ้านทั้งที่เป็นสมาชิก และทายาทได้ยื่นข้อเสนอให้ทางสมาคมจ่ายเงินสินไหมทดแทน หรือเงินค่าจัดการศพ ที่ค้างอยู่รายละ 90,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่ต้องไปกู้ยืมเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ จากที่ต้องจ่ายจริงรายละ 120,000-150,000 บาท
หลังการเจรจาไม่ได้ข้อสรุป ทางสมาคมฯ ไม่ยอมทำตามข้อเสนอของชาวบ้าน ชาวบ้านจึงได้พากันเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สตึก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเอาผิดตี่อทางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ดังกล่าวที่เบี้ยวเงินค่าจัดการศพ ซึ่งเบื้องต้น ทางตำรวจได้รับแจ้งความไว้พร้อมสอบปากคำชาวบ้านว่าจะการกระทำในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายยักยอก หรือผิด พ.ร.บ.ฌาปนกิจอย่างไร
นางอภิสรา ศรีสง่า ทายาทของสมาชิกรายหนึ่ง บอกว่า จากกรณีที่ทางคณะกรรมการสมาคมฯ ไม่ยอมจ่ายเงินค่าจัดการศพให้กับสมาชิกที่เสียชีวิต โดยอ้างว่าไม่สามารถเก็บเงินจากสมาชิกได้ทำให้การบริหารขาดสภาพคล่อง ทั้งที่จริงทางสมาคมฯ จะเก็บเงินจากสมาชิกล่วงหน้าปีละ 4,500 บาทต่อราย ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่อถึงความไม่โปร่งใส จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้นชาวบ้านก็ได้แจ้งความให้เอาผิดกับทางสมาคมฯ ไว้แล้ว
ด้าน น.ส.บุญร่วม ว่องไว ชาวบ้าน ต.หนองใหญ่ อ.สตึก กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังจากแม่ซึ่งเป็นสมาชิกฯ ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้เสียชีวิตเมื่อเดือน พ.ย.2559 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมานานกว่า 7 เดือนแล้ว แต่เพิ่งได้เงินเพียง 10,000 บาทเศษ เมื่อเดือน พ.ค.60 ที่ผ่านมา จากยอดจริงที่ควรจะได้รับกว่า 91,000 บาท ทำให้เดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะตอนที่แม่เสียชีวิตตนต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศพของแม่ ทำให้ตอนนี้ต้องหาเงินมาใช้หนี้ที่กู้ยืมมา
“จึงอยากเรียกร้องให้ทางอำเภอ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ เพื่อให้ทางสมาคมเร่งนำเงินสินไหมที่ยังค้างกว่า 80,000 บาท มาจ่ายโดยเร็วด้วย เพราะตอนนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว” น.ส.บุญร่วม กล่าวในตอนท้าย