กาฬสินธุ์ - 2 อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านลาดสมบูรณ์ และลูกบ้านกว่า 100 คนซึ่งเข้าชื่อร้องตรวจสอบทุจริตโครงการประชารัฐแห่แจ้งความตำรวจขอความคุ้มครอง ภายหลัง “น้องเมีย” ผู้ใหญ่บ้านบุกข่มขู่นักข่าวจนหวาดผวาอิทธิพล จี้นายอำเภออย่าเกียร์ว่าง ให้รีบจัดการเพราะชาวบ้านเขาเดือดร้อน
จากกรณีชาวบ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นำโดย นายไพบูลย์ ไชยคำนวน อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 87 และตัวแทนชาวบ้านได้รวมตัวกันเข้าตรวจสอบศาลาประชาคมหมู่บ้านที่สร้างจากงบประมาณโครงการประชารัฐ หลังทำการก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งจากการตรวจสอบระบุว่าไม่ได้มาตรฐาน ปริมาณงานน้อย ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ 2 แสนบาท และเงินกองกลางหมู่บ้านหายไป 5 พันบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองกาฬสินธุ์ แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงเรียกร้องให้ สตง. และ ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบ
ต่อมาได้มีหญิงวัยกลางคน พร้อมด้วยชายวัยรุ่น และหญิงวัยรุ่น รวม 3 คน อ้างว่าเป็นญาตินายบัญชา อุ่นมีศรี ผู้ใหญ่บ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ บุกเข้ามายังห้องทำงานสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ พร้อมกับข่มขู่
เนื่องจากไม่พอใจที่นำเสนอข่าวชาวบ้านร้องเรียน และนักข่าวได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กับ พ.ต.ต.สมทรง เวียงปฏิ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อบุคคลทั้ง 3
เนื่องจากไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ และเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะถือว่าการกระทำของทั้ง 3 คนเป็นการข่มขู่ คุกคามสื่อ และเป็นการบุกรุกตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (25 มิ.ย.) เวลา 13.30 น. ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ชาวบ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 ต.บึงวิชัย นำโดยนายเกสร สุวรรณราช อายุ 77 ปี นายเฉลิม อุ่นมีศรี อายุ 72 ปี ซึ่งทั้งสองคนเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 และนายไพบูลย์ ไชยคำนวน อายุ 42 ปี ตัวแทนชาวบ้าน พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวน 100 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.สิทธิ์ ประเสริฐสังข์ พนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
โดยระบุว่าเกรงไม่ได้รับความปลอดภัยจากผู้มีอิทธิพลในชุมชน หลังผู้สื่อข่าวสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ถูกคนใกล้ชิดผู้ใหญ่บ้าน คือน้องเมียกับลูกชายบุกข่มขู่ถึงห้องทำงาน เหตุไม่พอใจที่นำเสนอข่าวชาวบ้านร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านเกี่ยวกับโครงการประชารัฐดังกล่าว
นายไพบูลย์ ไชยคำนวน กล่าวว่า หลังจากตนกับชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 ไปยังศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองกาฬสินธุ์ เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของโครงการประชารัฐ 2 แสนบาท ที่นำมาสร้างศาลาประชาคม และยักยอกเงินกองกลางหมู่บ้านจำนวนประมาณ 5 พันบาท มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559
แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จึงได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมและร่วมตรวจสอบด้วย
แต่ผลกลับเป็นว่าหลังจากที่สื่อได้นำเสนอข่าวออกไป คนใกล้ชิดนายบัญชา อุ่นมีศรี ผู้ใหญ่บ้าน คือ นางสาวสายฝน นันเรียม อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 92 หมู่ 9 ต.บึงวิชัย ซึ่งเป็นน้องเมียนายบัญชา กับนายสยุมภู อุ่นมีศรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 9 ต.บึงวิชัย ซึ่งเป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ได้บุกรุกเข้าไปข่มขู่นักข่าวถึงในห้องทำงาน
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนและชาวบ้านรู้สึกหวาดกลัว ไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต เพราะขนาดนักข่าวยังถูกคุกคามข่มขู่ แล้วพวกเราที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา จะไม่ให้รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร
ขณะที่นายเกสร สุวรรณราช อายุ 77 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านลาดสมบูรณ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านที่ร่วมลงชื่อร้องเรียนนายบัญชา ผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 100 คน จากจำนวนประชากรในหมู่บ้านประมาณ 200 คน จึงรู้สึกไม่ปลอดภัย บางคนเป็นกังวลกินไม่ได้นอนไม่หลับ โดยเฉพาะที่ได้ยินญาติผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งพูดกรอกหูอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่มีเรื่องร้องเรียนว่า “เอาปืนยิงกรอกปากมันเลย” ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายของชาวบ้าน ลูกหลาน ที่ต้องการเห็นความถูกต้องเที่ยงธรรมในหมู่บ้าน จึงได้พากันมาแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ชาวบ้านยังเรียกร้องไปยังนายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสำนวนที่ชาวบ้านร้องเรียนโครงการประชารัฐ 2 แสนบาท ที่ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 จัดสร้างศาลาประชาคมในเร็ววันด้วย เพื่อสร้างความกระจ่างให้แก่ชาวบ้านที่ต้องการความเป็นธรรม และให้การเบิกจ่ายเงินจากภาษีประชาชนเกิดประโยชน์คุ้มค่า
ด้าน ร.ต.อ.สิทธิ์ ประเสริฐสังข์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำชาวบ้านที่มาร้องทุกข์ในเบื้องต้น ได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และให้ความเชื่อมั่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากพบเบาะแสหรือเหตุใดส่อถูกทำร้ายคุกคาม ไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถแจ้งสายตรวจตำบล หรือสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ในส่วนของการติดตามคดีนั้น เนื่องจากบุคคลที่ชาวบ้านระบุว่ามีพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันกับที่นักข่าวสมาคมนักข่าวมาแจ้งความไว้ จึงจะได้ประสานแนวทางการปฏิบัติงานกับ พ.ต.ต.สมทรง เวียงปฏิ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าของคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป