xs
xsm
sm
md
lg

แฉสาวบัญชีสหกรณ์เกษตรฯ ยักยอกเงินร่วม 100 ล้าน แจ้งความตำรวจไว้กว่า 6 เดือนแต่คดีไม่คืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์ - ประธานสหกรณ์การเกษตรลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ แฉเจ้าหน้าที่บัญชีเจ้าเล่ห์ยักยอกเงินร่วม 100 ล้านบาท หลังรับฝากเงินแต่ไม่ลงบันทึกในระบบ ทั้งร่วมกับบุคคลภายนอกปลอมแปลงเอกสารบันทึกรายการอันเป็นเท็จในสมุดบัญชีเงินฝาก ลักทรัพย์ยักยอกเงินสหกรณ์ร่วม 100 ล้านบาท ชี้แจ้งความนาน 6 เดือนแต่คดีไม่คืบ ผู้กระทำผิดยังลอยนวลทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน จี้ตำรวจเร่งดำเนินการ
นางสาววลัยลักษณ์ แสมรัมย์  ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรลำปลายมาศ จำกัด อ.ลำปลายมาศ  จ.บุรีรัมย์
วันนี้ (19 มิ.ย. 60) นางสาววลัยลักษณ์ แสมรัมย์ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรลำปลายมาศ จำกัด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานรายการบัญชีเงินฝาก และสลิปรับฝากเงินรายวันที่มีการตรวจพบความผิดปกติ ออกมาแฉพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีสาวคนหนึ่งที่ได้ปลอมแปลงบันทึกรายการอันเป็นเท็จในสมุดบัญชีเงินฝากของสมาชิกสหกรณ์รวม 390 บัญชี และทำรายการทางบัญชีอันเป็นเท็จให้กับบุคคลภายนอกอีก 1 บัญชี รวมทั้งหมด 400 รายการ เพื่อลักทรัพย์ ยักยอกเงินของสหกรณ์ฯ ร่วม 100 ล้านบาท

พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่บัญชีสาวคนดังกล่าวจะรับฝากเงินจากสมาชิกพร้อมลงตัวเลขในสมุดบัญชี และเขียนใบฝากตามปกติเหมือนกับการฝากเงินทั่วไป แต่ไม่คีย์ยอดการฝากเงินลงในระบบคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็นำเงินสดที่สมาชิกนำมาฝากเข้ากระเป๋าตัวเอง ส่วนอีกกรณีที่ร่วมกับบุคคลภายนอกยักยอกเงิน คือพนักงานคนดังกล่าวไปซื้อหวยกับเจ้ามือหวยรายหนึ่ง แต่พอไม่ถูกหวยและไม่มีเงินสดไปจ่ายก็จะไปเอาสมุดบัญชีของเจ้ามือหวยคนดังกล่าวมาปรับแต่งยอดเงินเป็นตัวเลขลมขึ้นมาว่าได้โอนจ่ายเงินค่าหวยเข้าบัญชีให้แล้ว ซึ่งทำแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2554 แต่ไม่ตรวจพบ

กระทั่งเมื่อปี 2557 ที่นางสาววลัยลักษณ์ แสมรัมย์ ประธานสหกรณ์ฯ คนปัจจุบัน ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง และผู้ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ จากกรมบัญชีสหกรณ์ได้เข้ามาตรวจสอบบัญชีก็พบความผิดปกติของตัวเลขไม่เป็นปัจจุบัน และตัวเลขในรายการฝากเงินไม่ตรงกับยอดเงินจริง จึงขอให้มีการตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับการรับฝาก-ถอนเงินย้อนหลัง จนพบว่ามีการยักยอกเงินของสหกรณ์จริงร่วม 100 ล้านบาท


นางสาววลัยลักษณ์กล่าวต่อว่า หลังพบหลักฐานการยักยอกเงินของสหกรณ์ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงจนพบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีคนดังกล่าวเป็นคนยักยอกเงิน จึงได้ให้ออกจากการทำหน้าที่ และได้แจ้งความเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฐานลักทรัพย์เงินนายจ้าง และแจ้งความเอาผิดบุคคลภายนอกที่มีส่วนร่วมยักยอกเงินดังกล่าวด้วย ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เวลาผ่านมาเกือบ 6 เดือนแล้ว คดีไม่คืบหน้า ทั้งที่ผู้กระทำผิดก็ยอมรับสารภาพและมีหลักฐานชัดเจน แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น