ระยอง - อุทาหรณ์ หรือบทเรียน เด็กโดดตึกเสียชีวิตหลังถูกจับได้ว่าขโมยเงินเพื่อน โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกพบ ก่อนออกมาใช้สื่อโซเชียลสั่งลาเพื่อน “รักนะ รักเพื่อนๆ ทุกคน ชาติหน้ามีจริง คงได้พบกัน” และหายขึ้นไปชั้น 4 ของอาคารแล้วโดดลงมาเสียชีวิต
จากกรณี นาย พ. (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง กระโดดตึกอาคารเรียนชั้น 4 ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา โดยตั้งศพสวดอธิธรรมศพที่วัดป่ากร่ำ และมีกำหนดฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน นี้
ล่าสุด เพื่อน นาย พ. นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุ (12 มิ.ย.) ช่วงเช้าหลังเคารพธงชาติ ได้มีอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนได้ขึ้นมาพูดหน้าเสาธง ว่า ขณะนี้ได้เกิดเหตุการณ์ทรัพย์สินของเพื่อนนักเรียนได้หายไป ซึ่งทางโรงเรียนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว พร้อมทั้งบอกลักษณะของผู้ต้องสงสัยให้แก่เพื่อนนักเรียนได้รู้ แต่เพื่อนนักเรียนหลายคนก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
จนในช่วงหลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ ทางอาจารย์ฝ่ายปกครองได้เรียก นาย พ. ไปที่ห้องฝ่ายปกครอง และก็ได้มีการพูดคุยกัน จน นาย พ. ยอมรับ และตกลงที่จะเรียกผู้ปกครองมาที่โรงเรียน ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตได้ขอตัวออกจากห้องปกครอง แล้วออกมาพิมพ์ข้อความเหมือนกับสั่งเสียเพื่อนๆ ประมาณว่า “รักนะ รักเพื่อนๆ ทุกคน ชาติหน้ามีจริง คงได้พบกัน” หลังจากนั้นก็ทราบว่า นาย พ. ได้กระโดดอาคารเรียนลงมาได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว
เพื่อน นาย พ. กล่าวต่อไปว่า โดยปกติ นาย พ .เป็นคนร่าเริง ช่วยงานโรงเรียน เป็นที่รักของเพื่อนๆ ทุกคน ซึ่งไม่ทราบว่าเพราะเหตุอะไรเขาจะต้องขโมยเงินของเพื่อนไปด้วย ทั้งๆ ที่ฐานะทางบ้านของ นาย พ. ก็มีฐานะดีคนหนึ่งเลยทีเดียว
หลังจากเพื่อนๆ ที่โรงเรียนทราบว่า นาย พ.เสียชีวิต บรรยากาศก็เป็นไปอย่างเงียบเหงา นักเรียนในชั้นเรียนไม่ค่อยพูดจากันเลย โดยเฉพาะกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง ซึ่งตอนนี้เพื่อนๆ ในชั้นเรียนมีอาการเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่มีใครปริปากเรื่องที่เกิดขึ้นเลย
ด้านแหล่งข่าวจากผู้บริหารระดับสูงโรงเรียนที่ นาย พ. กระโดดตึกลงมาเสียชีวิต กล่าวถึงกรณีที่นาย พ. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กระโดดตึกฆ่าตัวตายในครั้งนี้ ซึ่งความเป็นจริงมีเด็กนักเรียนภายในโรงเรียนที่เสียหาย จำนวน 2 คน ร้องเรียนว่า ถูกนาย พ. ขโมยเงินไป
อาจารย์ฝ่ายปกครองจึงได้เรียนเด็กนักเรียนคนดังกล่าวไปสอบถามภายในห้องฝ่ายปกครองถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเด็กนักเรียนก็ไม่ยอมรับ จนอาจารย์ฝ่ายปกครองนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ดู จึงจำนนต่อหลักฐาน และเขียนหนังสือยอมรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากที่เด็กยอมรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว จึงให้เด็กโทรศัพท์ไปหาผู้ปกครองเพื่อต้องการให้ผู้ปกครองมาเคลียร์เงินที่สูญหายไป โดยครั้งแรกโทรศัพท์ไปหามารดา แต่มารดาไม่รับสาย จึงให้โทรศัพท์ไปหาบิดา ซึ่งเด็กแจ้งว่าไม่มีเบอร์บิดา และบอกว่า บิดาก็เป็นคนที่ดุมาก หลังจากนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวก็จบลง เพราะเป็นเรื่องที่เกิดภายในโรงเรียน และไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตมากมายนัก ซึ่งทางโรงเรียนได้ดำเนินการตามกฎระเบียบ และขั้นตอนที่วางไว้
ในช่วงที่กำลังดำเนินการ และอาจารย์ฝ่ายปกครองกำลังพิมพ์เอกสารอยู่นั้น นาย พ. ได้เดินออกจากห้องดังกล่าว และหายขึ้นไปยังดาดฟ้าของโรงเรียน ซึ่งมีการล็อกประตูไว้อย่างดี โดยจะมีเพียงนักการภารโรงเท่านั้นที่มีกุญแจเปิด เพื่อไปเก็บธง หรือเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาที่อยู่บนดาดฟ้า ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่า นาย พ. ขึ้นไปบนดาดฟ้าได้อย่างไร จากนั้นได้นั่งสงบสติอารมณ์บนดาดฟ้าระยะหนึ่งก่อนตัดสินใจกระโดดลงมาดังกล่าว
สำหรับนาย พ. นั้นเป็นเด็กที่ร่าเริง และชอบเรื่องช่างไฟฟ้า โดยจะเข้าไปทำงานในชอปไฟฟ้าเป็นประจำในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จึงไม่ทราบสาเหตุที่ตัดสินใจกระโดดตึกในครั้งนี้
“หลังจากนี้ทางโรงเรียนคงมีมาตรการที่เข้มงวด โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่นำทรัพย์สินที่มีค่าไม่ควรนำออกมาโชว์ หรือให้เพื่อนในกลุ่มนักเรียนด้วยกันทราบ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นอีก”
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนก็มีมาตรการตรวจสอบดูแลอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว เพราะโรงเรียนมีสารวัตรนักเรียน คอยตรวจสอบดูแลพฤติกรรมของนักเรียน ซึ่งมีนักเรียนทั้งสิ้นเกือบ 3,000 คน แต่เนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่จึงต้องดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อไป
ขณะนี้โรงเรียนได้ส่งพวงหรีดไปเคารพศพ นาย พ. ที่วัดป่ากร่ำ ในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนั้นได้มอบเงิน จำนวน 50,000 บาท ช่วยงานศพ และพร้อมจะร่วมกันบริจาคเงินอีกจำนวนหนึ่งไปช่วยงานศพด้วย
ด้าน ร.ต.อ.ณัฐกฤต คงรอด ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรแกลง กล่าวถึงกรณีการฆ่าตัวตาย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน โดยจะต้องสอบถามอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียน เพื่อนนักเรียนของผู้เสียชีวิต และเชิญบิดา มารดาของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำหาสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดต่อไป
ขณะนี้ยังไม่มีใครมาให้ปากคำ เนื่องจากบิดา และมารดาของนักเรียนที่เสียชีวิตกำลังติดภารกิจการจัดงานศพลูกชายอยู่ ส่วนทางอาจารย์นั้นก็อยู่ระหว่างการประชุมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร โดยเรื่องนี้ไม่น่ามีอะไรซับซ้อน หากสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องก็สามารถสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวต้องทำอย่างรัดกุม เพราะเหตุเกิดต่อหน้าเด็กจำนวนมาก
