ปราจีนบุรี - ผจก.เต็นท์รถเมืองปราจีนฯ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อแก๊งต้มตุ๋น อ้างตนเป็นทหารอเมริกันหลอกตีสนิทผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนบอกว่ายักยอกทรัพย์จากทางการมาไว้ที่ด่านศุลกากรในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะหลอกให้ผู้ละโมบอยากได้เงินที่ไม่มีจริงโอนเงินผ่านพิธีกรรมศุลกากรผ่านหญิงไทย เพื่อนำกระเป๋าเงินที่ภายในมีเงิน 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐออกมา แลกกับการเสียค่าธรรมเนียมนำพัสดุออกเพียง 3.5 หมื่นบาท เผยโชคดีไหวตัวทัน ทำให้ไม่ต้องสูญเงินดังกล่าว
วันนี้ (13 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวันทอง ศรีวันดี ผู้จัดการเต็นท์รถมือสองในตลาดบ้านโคกอุดม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถึงเรื่องราวที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพร่วมกันหลอกลวงเพื่อจะเอาเงิน เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้แก่บุคคลอื่นๆ ป้องกันไม่ให้ถูกหลอกเช่นตนว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้รู้จักกับเพื่อนทางเฟซบุ๊ก ซึ่งอ้างตนว่าเป็นทหารหญิงอเมริกัน ชื่อ Mercy Diara และกำลังปฏิบัติราชการอยู่ในประเทศเยเมน
โดยได้ทำทีเข้ามาขอเป็นเพื่อน พร้อมอ้างว่า กลุ่มของตนมีนายทหารที่ร่วมกันยักยอกเงิน จำนวน 3.5 ล้านเหรียญ จากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ส่งมาให้ทั้งหมด 74 ล้านเหรียญ เพื่อซื้ออาวุธให้แก่กองกำลัง ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกแพกใส่กระเป๋าส่งมาที่ประเทศไทย และติดอยู่ที่ด่านศุลกากรสงขลา เพื่อรอการมารับหลังเสร็จสิ้นภารกิจในเยเมนช่วงสิ้นปีนี้
โดยแก๊งมิจฉาชีพยังได้ส่งภาพถ่ายกระเป๋าใส่เงินที่ภายในอัดแน่นไปด้วยธนบัตรสกุลดอลลาร์ ซึ่งผู้ที่อ้างว่าเป็น Mery Diara ได้เรียกขานตนว่า สหายทอง และมอบหมายให้ช่วยดูแลกระเป๋าบรรจุเงินดอลลาร ไว้จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ จากนั้นจึงจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้ผ่านผู้หญิงไทยที่ชื่อ บัวสร ที่สำนักงานขนส่งหาดใหญ่ พร้อมให้หมายเลขโทรศัพท์ 09-2678-1834 เพื่อติดต่อกับหญิงไทยที่ชื่อ บัวสร ซึ่งจะเป็นผู้ประสาน และดำเนินการในด้านกรรมวิธีต่างๆ ทางศุลกากร
“จากการที่ได้พุดคุยกับ Merry Diara ทางเฟซบุ๊กอยู่หลายวันก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และหลังจากที่ได้พูดคุยถึงกรรมวิธีทางศุลกากรกับหญิงไทยที่ชื่อ บัวสร ก็ทราบว่า จะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมศุลกากร และค่าขนส่งรวมทั้งค่าเก็บรักษาเป็นเงินทั้งสิ้น 35,000 บาท ซึ่งเราเองก็เห็นว่าเป็นเงินไม่มาก ทั้ง Merry Diara เองก็บอกถ้าต้องการจะใช้เงินก็สามารถเอาเงินในส่วนที่ไปรับออกมาใช้แทนได้ จึงเตรียมตัวที่จะเดินทางไป จ.สงขลา แต่ระหว่างการพูดคุยกับ บัวสร พบว่ามีความพยายามเร่งรัดให้โอนเงิน พร้อมทั้งบอกว่าเราไม่ต้องเดินทางไป จึงต้องการพิสูจน์ให้เห็นกับตาว่ามีเงินดังกล่าวจริงหรือไม่จึงยืนยันว่าจะเดินทางไป แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อทั้ง บัวสร และ Mery Diara ได้อีก แม้จะพยายามติดต่ออยู่หลายครั้งก็ตาม”
นายวันทอง ยังบอกอีกว่า กระทั่งตนเองลองเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ และโทรศัพท์ไปหา บัวสร แต่ก็ถูกตัดสายทิ้ง จึงเชื่อว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์แก่คนที่คิดละโมบ อยากได้เงินของผู้อื่น เพราะในความจริงแล้วหากเฉลียวใจสักนิดก็คงจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครทิ้งเงินมากมายขนาดนั้นไว้กับคนที่เพิ่งรู้จักกันแค่อาทิตย์เดียว
“เชื่อว่าการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าวทำกันเป็นขบวนการ แต่ที่ไม่เข้าแจ้งความก็เพราะว่ายังไม่มีอะไรเสียหาย เพียงแต่ต้องการเตือนมายังสุจริตชนให้ระวังการตกเป็นเหยื่อแก๊งหลอกลวงซึ่งมีวิธีการที่ซับซ้อนแยบยลจนเราตามไม่ทัน” นายวันทอง กล่าว