สระแก้ว - ตำรวจสอบเพิ่ม 3 ชาวจีนเช่าบ้านที่สระแก้ว ใช้ไอโฟน 500 เครื่อง ซิม 3.5 แสนชิ้นรับกดไลก์ แจ้งข้อหาเพิ่มฐานนำเข้าโทรศัพท์มือถือโดยไม่ได้รับอนุญาต รับค่าจ้างเดือนละ 1.5 แสน แต่ไม่ยอมบอกชื่อบริษัทผู้จ้าง พร้อมสอบหาขบวนการเบื้องหลัง ชี้ซื้อซิมจำนวนมหาศาลไม่ใช่ทำง่ายๆ
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ พร้อมด้วยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการตรวจค้นจับกุม 3 ชาวจีน และภรรยาคนไทย 1 คน ที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ชื่อว่า หมู่บ้านโก้เก๋ ที่บ้านเลขที่ 876/18, 876/7 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งพบโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟน จำนวนเกือบ 500 เครื่อง ซิมโทรศัพท์ พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก โดยอ้างว่า มาทำงานเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ เรื่องการขายสินค้า เพื่อส่งไปขายที่ประเทศจีนนั้น
ล่าสุด วันนี้ (12 มิ.ย.) พ.ต.อ.วัสสพันธ์ ศิริกุลกมลฉัตร ผกก.สภ.อรัญประเทศ เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.เกษม วงศ์ทอง สว.(สอบสวน) สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าของคดียังคงควบคุม 3 ผู้ต้องหาชาวจีน ประกอบด้วย นายวาง ดง (Mr.WANG. DONG.) อายุ 33 ปี หนังสือเดินทางเลขที่ E91939879 นายนุย บาง (Mr.NIU. BANG) อายุ 25 ปี สัญชาติจีน หนังสือเดินทางเลขที่ E94040259 และนายไน เวนจิน (Mr.NI. WENJIN) อายุ 31 ปี สัญชาติจีน หนังสือเดินทางเลขที่ E92410904 ไว้ในที่คุมขัง สภ.อรัญประเทศฯ ในข้อหา”เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”ตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 แต่ทั้ง 3 คน เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านด่านศุลกากร ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในฐานะนักท่องเที่ยว
ขณะนี้ ทั้ง 3 คน ถูกตั้งข้อหาเพิ่ม คือ ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆซึ่งของอันตนรู้ ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้ามหรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องหรือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อจำกัด หรือข้อห้ามอันเกี่ยวแก่ของนั้น ตาม ม.27ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และกำลังเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อนำ 3 ผู้ต้องหาชาวจีนส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดสระแก้ว
ทั้งนี้ คาดว่าในวันพรุ่งนี้(13 มิ.ย.) จะสามารถนำผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดสระแก้วได้ โดยขณะนี้ ยังอยู่ในช่วงเวลากำหนดควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชม. โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังอยู่ในอาการเครียด และยังไม่มีใครมาขอเยี่ยม โดยได้มีการจัดกำลัง เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
พ.ต.อ.วัสสพันธ์ เผยต่อไปว่า จากการตรวจนับอย่างละเอียด นอกจากเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมโน๊ตบุ๊กที่มีทั้งหมดรวมกว่า 10 เครื่องนั้น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รวมทั้งหมดมี 474 เครื่อง ส่วนใหญ่เป็นไอโฟน 5C และ 5S ส่วนซิมโทรศัพท์มือถือจากการตรวจนับมีทั้งหมดรวม 347,200 ซิม แยกเป็นซิมโทรศัพท์ ค่าย Dtac จำนวน 104,000 ซิม ค่าย True จำนวน 131,000 ซิม และ ค่าย AIS จำนวน 112,200 ซิม
สำหรับซิมการ์ด ที่พบเป็นจำนวนมากนั้น มีทั้งซิมการ์ดใหม่และเก่า ซึ่งมีทั้งใช้ได้และใช้ไม่ได้ โดยปัจจุบันนี้ซิมการ์ดที่จ่ายเป็นรายเดือน จะต้องมีลงทะเบียนเป็นหลักฐานที่ชัดเจน ส่วนรายวันนั้นไม่ต้องมีหลักฐาน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องการครอบครองซิมการ์ดนั้น จะต้องสอบถามบริษัทเจ้าของซิมเพิ่มเติม
พ.ต.อ.วัสสพันธ์ กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ชาวจีนเข้ามาทำงานในประเทศไทยนั้น เนื่องจากการซื้อซิมการ์ดในประเทศไทยง่ายกว่าประเทศจีน นอกจากนั้นการใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งข้อมูลข่าวสาร ในประเทศไทยถูกมากและสะดวกรวดเร็ว ขณะที่ในประเทศจีนค่าใช้จ่ายสูงมาก
ขณะนี้การสอบปากคำผู้ต้องหา มีปัญหาอุปสรรคเล็กน้อย เนื่องจากต้องใช้ล่ามในการแปลภาษา ทำให้ล่าช้า นอกจากนั้นการควบคุมผู้ต้องหาได้เพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น แต่การสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลในเชิงลึกจะต้องใช้ระยะเวลาหลายวัน ว่ามีขบวนการเช่นนี้เข้ามาในประเทศไทยจำนวนเท่าไร และมีเป้าหมายอะไรนอกเหนือไปกว่านี้หรือไม่ ซึ่งยังไม่สามารถสอบได้ลึกในขณะนี้ เบื้องต้นจากการสอบปากคำแล้ว ยังไม่มีเรื่องผิดกฎหมายอื่นๆในขณะนี้ โดยมีหลายหน่วยงานก็มาร่วมตรวจสอบอยู่
ด้าน พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว กล่าว จากการสืบสวนสอบสวนของ เจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว พบว่า ชาวจีนทั้ง 3 คนอาจจะเป็นแก๊งสร้างยอดไลก์ยอดวิวโฆษณาสินค้าเก๊ จากประเทศจีน ถือว่าเป็นการหลอกลวงและเป็นภัยทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการหลอกลวงว่าสินค้าที่รับงานโฆษณามามีประชาชนเข้ามาดูและกดไลก์ กดแชร์ จำนวนมาก ผ่านทางโปรแกรมวีแชต ประเทศจีน ทำให้บริษัทที่รับจ้างโฆษณาสินค้า ได้รับเงินค่าโฆษณาจำนวนมากตามยอดวิว
ถึงแม้จะไม่ได้เข้ามาสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจของสินค้าไทย ก็ตามแต่ก็เป็นการหลอกลวงสร้างยอดไลก์ ยอดวิวสินค้าของประเทศจีน เป็นการโกหกบริษัทผู้ผลิตสินค้า ถือว่าเป็นภัยต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ทั้งนี้ผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 3 คน รับสารภาพว่าได้ค่าจ้างเดือนละประมาณ 150,000 บาท และบริษัทแม่ที่ประเทศจีนเป็นผู้จัดส่งโทรศัพท์มาให้ แต่ยังไม่ยอมบอกว่าบริษัทแม่หรือบริษัทที่ว่าจ้างให้มากดไลก์ กดแชร์สร้างยอดวิวสินค้าชื่อบริษัทอะไร และจากการตรวจสอบประวัติการเดินทางพบว่าชาวจีนทั้ง 3 คน เดินทางเข้าประเทศไทยมาทางด่าน ตม.สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
พร้อมสั่งการให้ ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ตรวจสอบเส้นทางการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือจำนวนมากเข้าประเทศมาได้อย่างไร และการซื้อซิมจำนวน มากขนาดนี้ทำได้แค่ไหน เนื่องจากประเทศไทยมีกฎระเบียบควบคุมซิมโทรศัพท์มือถืออยู่แล้วที่ผู้ซื้อต้องลงทะเบียน อีกทั้งต้องสอบในเชิงลึกไปอีกด้วยว่ายังมีขบวนการดังกล่าวอยู่ในประเทศไทยอีกหรือไม่ เพราะการที่มีโทรศัพท์มือถือจำนวนมากและยังซื้อซิมอีกเป็นแสนๆ ซิมต้องใช้เงินจำนวนมาก ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังด้วย
