กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านตำบลนาโก อ.กุฉินารายณ์ แตกตื่นรอยเท้าปริศนาบนลานหินภูดานม้า เขตป่าชุมชนภูโหล่ย ลักษณะคล้ายรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่เป็นหลุมลึก พบมากถึง 30 รอย แจ้งผู้นำชุมชนประสานอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เบื้องต้น สันนิษฐานเป็นรอยเท้าช้างดึกดำบรรพ์ยุคไดโนเสาร์สัตว์โลกล้านปี รุ่นเดียวกับซากฟอสซิลไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว
วันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายสุภาพ ไชยสุข นายก อบต.นาโก อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ว่า มีการพบรอยประหลาดคล้ายรอยเท้าสัตว์บริเวณลานหินภูดานม้า เขตป่าชุมชนภูโหล่ย พื้นที่ ต.นาโก อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ และในละแวกใกล้เคียงแตกตื่น และแห่เดินทางขึ้นไปชมรอยเท้าประหลาดจำนวนมาก
ทันทีที่ทราบข่าว ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นายกันตพล สุขสงค์ ปลัดอาวุโสอำเภอกุฉินารายณ์ นายโสภณ เจริญพร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ สาขากุฉินารายณ์ โดยมี นายจำรัส ไชยสุข กำนันตำบลนาโก และคณะกรรมการหมู่บ้านนำตรวจสอบ และให้ข้อมูล
ทั้งนี้ คณะสำรวจได้นำเจ้าหน้าที่ และผู้สื่อข่าวเดินเท้าขึ้นไปตามความลาดชันของเชิงเขา ซึ่งเป็นที่พักสงฆ์ภูดานม้า มีโขดหิน และต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น ลึกเข้าไปประมาณ 500 เมตร ถึงบริเวณที่พบรอยประหลาด ห่างจากแนวกันไฟป่าประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นลานหินลาดเอียง มีร่องรอยการทำความสะอาด ขันน้ำ แก้วน้ำ และดอกไม้ธูปเทียนที่ชาวบ้านนำมาเซ่นสรวงกราบไหว้วางอยู่เป็นจุดๆ
จากการสำรวจรอยประหลาดบนลานหินภูดานม้า ซึ่งเป็นลานหินโล่ง ไม่มีต้นไม้ปกคลุม กว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 19 เมตร โดยสิ่งพบคือ หลุมที่กระจายเต็มลานหินที่มีลักษณะคล้ายกับเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ รูปทรงวงกลม ขาดความมกว้างเฉลี่ย 50-60 ซม. แต่ด้านหนึ่งมีรอยหยักประมาณ 5 หยัก มีความลึกประมาณ 15-20 ซม.
แต่ละรอยห่างกันเป็นระยะๆ ดูเผินๆ เหมือนรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ที่กำลังจะเดินขึ้นไปตามความลาดชัน ขนาดหลุมต่างกัน
นายจำรัส ไชยสุข กำนันตำบลนาโก กล่าวว่า วันก่อนมีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า ได้พบพระธุดงค์รูปหนึ่งซึ่งได้เข้ามาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์บนภูดานม้าแห่งนี้ ว่า ได้พบร่องรอยประหลาดบนลานหินกลางป่า แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นรอยอะไร จึงได้พากันเข้ามาสำรวจ และได้พบว่าเป็นร่องรอยประหลาดเหมือนรอยเท้าช้าง มีขนาดเล็กใหญ่ต่างกัน ประมาณ 30 รอย จึงได้ประสานทางอำเภอ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาสำรวจเบื้องต้น เพื่อหาแนวทางสำรวจอย่างเป็นทางการต่อไป
แต่ทั้งนี้ หลายปีก่อนได้เคยแจ้งให้เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์มารับเอาซากฟอสซิลบริเวณใกล้เคียงไปจำนวนมาก ส่วนความเป็นไปได้ของการค้นพบรอยเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์น่าจะเป็นไปได้สูง และมีความเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะพื้นที่แห่งนี้ห่างจากวนอุทยานภูแฝก อ.นาคู ซึ่งเป็นจุดพบรอยเท้าไดโนเสาร์เพียง 40 กม.เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากชาวบ้านได้ทราบข่าวต่างแตกตื่นมาดูเป็นจำนวนมาก บางคนนำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชา และขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง และขอโชคลาภตามความเชื่อ โดยการค้นพบรอยประหลาดตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีคนโชคดีจากการนับรอยเท้าประหลาดไปเสี่ยงโชคไปจำนวนมาก ซึ่งในส่วนนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้หวงห้าม เพียงแต่ห้ามสัมผัส หรือใช้วัสดุชนิดใดทำการขุดหรือปรับแต่งร่องรอยดังกล่าว เพราะอาจจะเกิดการผุกร่อนเสียหายได้
เบื้องต้น ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาสอดส่องดูแล และรอเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น กรมทรัพยากรธรณี เข้ามาสำรวจอีกครั้ง
ทั้งนี้ “ภูดานม้า” เป็นภูเขาลูกเล็กๆ อีกลูกหนึ่ง ซึ่งเป็นป่าชุมชนเขตภูโหล่ย ภูเขาบริวารเทือกเขาภูพาน อดีตเคยมีการค้นพบซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ และได้มีการนำตัวอย่างไปเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์สิรินธรไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนที่จะมาพบรอยประหลาดในครั้งนี้
โดยสันนิษฐานว่า รอยเท้าปริศนาที่พบครั้งนี้เป็นรอยเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ เช่น ช้าง หรือไดโนเสาร์บางประเภท และอาจจะมีอายุในยุคเดียวกับซากฟอสซิลไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ล่าสุด ทราบว่าทางท้องถิ่นได้ประสานอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะได้เข้าทำการสำรวจอย่างละเอียดต่อไป