เชียงราย-โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์เวียงป่าเป้า สั่งรื้อหอพักที่ถูกไฟไหม้คลอกเด็กเสียชีวิต 17 ศพออกจนเกลี้ยงพร้อมปรับพื้นที่ใหม่ทำเป็นสวนสุขภาพชั่วคราวเพื่อรอทุนก่อสร้างหอพักใหม่
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า ขณะนี้ที่บ้านพักเด็กหญิงของโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งเคยเกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักคลอกเด็กหญิงจำนวน 17 ศพจนเสียชีวิตเหตุเกิดวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการปรับพื้นที่ใหม่แล้วโดยทางโรงเรียนได้สั่งรื้อถอนอาคารหลังที่ถูกไฟไหม้ออกหมดแล้ว โดยทางโรงเรียนมีโครงการจะสร้างอาคารหลังใหม่เพื่อให้นักเรียนหญิงได้ใช้นอนพักเช่นเดิม ขณะที่ในปัจจุบันมีเด็กหญิงที่ยังคงพักอยู่ในโรงเรียนจำนวนประมาณ 20 คน และใช้อาคารเรียนของโรงเรียนเป็นสถานที่หลับนอนชั่วคราว
นายเรวัติ วาสนา ผู้จัดการโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักเรียนจำนวน 85 คน และโรงเรียนให้อยู่นอนพักได้เพียง 20-30 คน เพราะไม่มีอาคารนอน เนื่องจากขาดงบประมาณก่อสร้างอาคารที่พักหลังใหม่จึงได้ปรับอาคารที่มีเหลืออยู่ให้เป็นอาคารนอนสำหรับนักเรียนชายไม่เกิน 50 คน ส่วนนักเรียนหญิงนอนในอาคารเรียนหลังเดิม เพราะได้มีเอกชนยื่นมือเข้าช่วยในการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ให้ สำหรับการดำเนินการในระยะยาวนั้นหลังจากได้ถมดินตรงอาคารหลังเดิมที่ถูกไฟไหม้หมดแล้วก็จะปรับภูมิทัศน์ให้เป็นสวนดอกไม้และสวนสุขภาพส่วนจะมีอาคารหลังใหม่เมื่อไหร่นั้นคงต้องรอการบริจาคจากภาคส่วนต่างๆ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เหตุการณ์จะผ่านพ้นมานานและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะแจ้งสาเหตุว่ามาจากขั้วหลอดไฟที่ชั้นล่างของบ้านพักหลอมละลาย แต่ทางผู้ปกครองนักเรียนหลายรายยังไม่เชื่อและมีการร้องไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้ตรวจสอบเพิ่มเติม กระทั่งล่าสุดทางตำรวจ สภ.เวียงป่าเป้า ต้องกลับมาตรวจสอบอีกครั้งหลังจากมีการยื่นเรื่องไปยังอัยการ จ.เชียงราย ถึง 3 ครั้ง โดยตำรวจได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางไฟฟ้าจากวิทยาลัยเทคนิคเวียงป่าเป้าไปให้ข้อมูลซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าปกติหลอดไฟนีออนมีโอกาสที่จะหลอมละลายน้อยมาก แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ด้วยสภาพแวดล้อม เช่น มีใยของแมลงมุมหรือปีกของแมลงเกาะอยู่เมื่อเกิดไฟติดก็อาจลุกไหม้ได้กระนั้นก็ไม่ยืนยันว่ากรณีนี้มีสภาพเช่นนี้หรือไม่ รวมทั้งไม่ทราบด้วยว่าคืนเกิดเหตุมีการเปิดไฟทิ้งเอาไว้หรือไม่อย่างไรด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกข้อมูลเพื่อส่งให้อัยการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไปแล้ว
