กาฬสินธุ์ - เกิดเหตุนายพรานถูกยิงสวนกลางป่าดาดผาขาว เทือกเขาภูโน อำเภอท่าคันโท กาฬสินธุ์ บาดเจ็บสาหัส เผยเป็นฝีมือนายพรานอีกกลุ่มออกล่าไก่ป่าเช่นกัน แต่ไม่ตัดปมขัดผลประโยชน์ เจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุกลางป่าหาตัวมือยิงนายพราน
วันนี้ (22 ธ.ค. 59) ร.ต.ต.นลิตร ทินภู พนักงานสอบสวนเวร สภ.ท่าคันโท ร.ต.อ.ศักดิ์ชาติ เหล่าสักสาม พนักงานสอบสวน สภ.หนองกุงศรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกยิงบริเวณป่าดาดขาว บริเวณเขตเทือกเขาภูโน อ.ท่าคันโท คาบเกี่ยวกับ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลหนองกุงศรี จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนายพรานนำทางเข้าตรวจสอบที่บริเวณดาดผาขาว เทือกเขาภูโน ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์
ผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นายจันทร์เพ็ง แก้วกู่ อายุ 43 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 8 บ้านภูฮัง ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ มีอาชีพเป็นนายพรานออกล่าของป่า ถูกยิงที่บริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายอาการยังสาหัส ภายหลังแพทย์โรงพยาบาลหนองกุงศรีได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โดยลูกกระสุนที่ถูกยิงพบว่าเป็นกระสุนปืนขนาด .22 เป็นกระสุนที่นายพรานนิยมใช้ออกล่าสัตว์ป่า
สอบถามนายอรุน ดาทุมมา อายุ 44 ปี เพื่อนนายพรานที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนและกลุ่มเพื่อนนายพรานจำนวน 5 คนได้ขึ้นมาปักหลักตั้งแคมป์กันเพื่อล่าไก่ป่าตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวานนี้ ตลอดทั้งคืนได้ดักซุ่มรอไก่ป่าออกมาจนถึงช่วงเช้าตรู่ประมาณ 06.00 น.วันนี้ได้มีกลุ่มไก่ป่ากำลังออกมา นายจันทร์เพ็งจึงอาสาออกไปล่อไก่ป่า นำไก่ป่าที่จับมาออกมาไว้ที่ริมทางเดินเท้า โดยเพื่อนจะดักซุ่มเพื่อยิงไก่ป่าห่างประมาณ 5 เมตร
ขณะที่นายจันทร์เพ็งนำไก่ป่าออกไปล่ออยู่นั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นและได้ยินเสียงนายจันทร์เพ็งร้อง ซึ่งเพื่อนนายพรานยังไม่มีใครได้ยิงปืน แต่พบว่ามีกลุ่มนายพรานอีกกลุ่มเข้ามาหาโดยบอกว่ายิงผิด จากนั้นคนยิงและกลุ่มนายพรานนั้นได้วิ่งหลบหนีเนื่องจากตกใจ โดยกลุ่มเพื่อนได้ช่วยนายจันทร์เพ็งออกมาจากป่าลึกประมาณ 10 กิโลเมตร และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือดังกล่าว
ด้าน ร.ต.ต.นลิตร ทินภู พนักงานสอบสวนเวร สภ.ท่าคันโท จะนำนายพรานทั้ง 4 รายซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าให้ปากคำพร้อมให้นำทางลงพื้นที่สำรวจพื้นที่จริง ซึ่งพบว่ามีปืนยาว 2 กระบอกถูกทิ้งไว้บริเวณที่เกิดเหตุ ไม่ระบุว่าเป็นของใครจึงได้อายัดไว้เป็นหลักฐานและส่งสำรวจรอยนิ้วมืออีกครั้ง ขณะที่การติดตามคนร้ายต้องดูร่องรอยการหลบหนีว่าหนีไปทิศทางใด และเป็นคนในพื้นที่หรือไม่ ทั้งนี้ต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง