พังงา - ตำรวจเร่งนำตัวมือยิงสาว 18 ทำแผน สารภาพตั้งใจยิงคู่อริ แต่พลาดโดนสาว 18 ดับ ขณะที่ในโลกโซเชียลมีการวิพากาวิจารณ์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ผู้ต้องหาที่จับได้นั้นเป็นมือปืนตัวจริงหรือไม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ธ.ค.) พ.ต.ท.ไชยยา ศรีมาลา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองพังงา พร้อมด้วย ร.ต.ท.ดุสิต ผ่องพันธุ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.เมืองพังงา ร่วมกันควบคุมตัว นายเทพณรงค์ หรือเบิร์ด บุญมา อายุ 21 ปี อาชีพช่างทำฝ้าเพดาน อยู่บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ 3 ต.ป่ากอ อ.เมือง จ.พังงา พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ทำด้วยกระบอกเหล็กท่อน ไปแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าร้านอาหารคลองงาคันทรี่ หมู่ 3 อ.เมือง จ.พังงา หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ จากเหตุยิงปืนใส่กลุ่มคู่อริ แต่กระสุนพลาดไปโดน น.ส.อลิษา เขน็ดพืช อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 57/3 หมู่ 4 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.พังงา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนในเบื้องต้น โดย นายเทพณรงค์ อ้างว่า วันที่ 3 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ตนเองกับเพื่อนเข้าไปเที่ยวร้านอาหารคลองงาคันทรี่ ในตัวเมืองพังงา และเกิดเขม่นกันกับกลุ่มวัยรุ่นต่างพื้นที่ที่มาเที่ยวภายในร้านเดียวกัน จนร้านปิด กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวออกมาจากร้าน แล้วใช้อาวุธปืนยิงขู่กลุ่มของตนเองโดยหันกระบอกปืนขึ้นฟ้าจำนวนหลายนัด จนตนเองทนพฤติกรรมวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวไม่ไหว ชักอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่พกมายิงใส่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว แต่ขณะนั้นผู้ตายซึ่งตนเองไม่เคยรู้จัก และไม่ได้มุ่งเป้าที่จะยิ่งเข้าใส่วิ่งตัดหน้าพอดี ทำให้โดนกระสุนปืนเข้าอย่างจัง และล้มต่อหน้าตนเอง และพวก จากนั้นตนเองพร้อมพวกจึงได้วิ่งหนี แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า เจตนาฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืน พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบสรุปคดี และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งที่ยังมีกลุ่มคนร้ายอีกหลายคนที่ยังจับไม่ได้ คนร้ายที่จับได้นั้นเป็นแพะหรือเปล่า และที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ทางร้านได้ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 01.00 น. แต่ทำไม่ลูกค้ายังคงอยู่ในร้านจำนวนมาก และที่สำคัญร้านดังกล่าวเปิดให้บริการใกล้กับสถานศึกษาวิทยาลัยเทคนิคพังงา ไม่ถึง 200 เมตร และเจ้าของร้านยังเป็นข้าราชการอีกด้วย ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการตรวจสอบว่าสมควรให้สถานบริการไปเปิดใกล้กับสถานศึกษาหรือไม่อย่างไร
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ธ.ค.) พ.ต.ท.ไชยยา ศรีมาลา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองพังงา พร้อมด้วย ร.ต.ท.ดุสิต ผ่องพันธุ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.เมืองพังงา ร่วมกันควบคุมตัว นายเทพณรงค์ หรือเบิร์ด บุญมา อายุ 21 ปี อาชีพช่างทำฝ้าเพดาน อยู่บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ 3 ต.ป่ากอ อ.เมือง จ.พังงา พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ทำด้วยกระบอกเหล็กท่อน ไปแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าร้านอาหารคลองงาคันทรี่ หมู่ 3 อ.เมือง จ.พังงา หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ จากเหตุยิงปืนใส่กลุ่มคู่อริ แต่กระสุนพลาดไปโดน น.ส.อลิษา เขน็ดพืช อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 57/3 หมู่ 4 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.พังงา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนในเบื้องต้น โดย นายเทพณรงค์ อ้างว่า วันที่ 3 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ตนเองกับเพื่อนเข้าไปเที่ยวร้านอาหารคลองงาคันทรี่ ในตัวเมืองพังงา และเกิดเขม่นกันกับกลุ่มวัยรุ่นต่างพื้นที่ที่มาเที่ยวภายในร้านเดียวกัน จนร้านปิด กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวออกมาจากร้าน แล้วใช้อาวุธปืนยิงขู่กลุ่มของตนเองโดยหันกระบอกปืนขึ้นฟ้าจำนวนหลายนัด จนตนเองทนพฤติกรรมวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวไม่ไหว ชักอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่พกมายิงใส่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว แต่ขณะนั้นผู้ตายซึ่งตนเองไม่เคยรู้จัก และไม่ได้มุ่งเป้าที่จะยิ่งเข้าใส่วิ่งตัดหน้าพอดี ทำให้โดนกระสุนปืนเข้าอย่างจัง และล้มต่อหน้าตนเอง และพวก จากนั้นตนเองพร้อมพวกจึงได้วิ่งหนี แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า เจตนาฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืน พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบสรุปคดี และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งที่ยังมีกลุ่มคนร้ายอีกหลายคนที่ยังจับไม่ได้ คนร้ายที่จับได้นั้นเป็นแพะหรือเปล่า และที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ทางร้านได้ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 01.00 น. แต่ทำไม่ลูกค้ายังคงอยู่ในร้านจำนวนมาก และที่สำคัญร้านดังกล่าวเปิดให้บริการใกล้กับสถานศึกษาวิทยาลัยเทคนิคพังงา ไม่ถึง 200 เมตร และเจ้าของร้านยังเป็นข้าราชการอีกด้วย ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการตรวจสอบว่าสมควรให้สถานบริการไปเปิดใกล้กับสถานศึกษาหรือไม่อย่างไร