พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครสรีอยุธยา บุกรวบ 4 วัยรุ่นไล่ยิงอริดับคาทางวัดพระญาติ หลังเกิดเหตุวิวาทมาจากสถานบันเทิงในย่านตลาดแกรนต์ ขณะนี้มือยิงยังหลบหนี พร้อมกับลุยตรวจสถานบันเทิงต้นเหตุพบมีวัยรุ่นเที่ยวเพียบ จับการ์ตคุมผับได้ 1 พร้อมใบกระท่อม
จากกรณีคนร้ายขับรถยนต์เก๋ง ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ไล่ยิง นายยุรนันท์ ชูจิตร อายุ 22 ปี ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมี นายณัฐพล หงส์ทอง อายุ 28 ปี นั่งซ้อนท้ายมาด้วย กระสุนปืนถูกนายยุรนันท์ ที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย 1 นัด เสียชีวิต แล้วคนร้ายได้หลบหนีไป เหตุเกิดที่บริเวณทางเข้าวัดพระญาติ ต.ไผลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมา วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กิตติพงศ์ วิเศษสงวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.ท.เอนก พงษ์สวสัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายธนอรรถ นันทศิริ อายุ 19 ปี นายอรรถวุฒิ แย้มสรวล อายุ 18 ปี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางเป็นรถยนต์นิสสัน มาร์ช สีดำ หมายเลขทะเบียน ฆศ 7739 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ในการก่อเหตุ ในข้อมหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันยิงปืนในที่สาธารณะ
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดได้จอดรถยนต์เก๋งอยู่ตรงบริเวณหน้าเต็นท์ขายรถยนต์ทางคู่ขนานโรจนะขาออก ต่อมา กลุ่มผู้ตายพร้อมเพื่อนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 3 คัน เมื่อขับผ่านแล้วได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ต้องหา 5-6 นัด แต่ไม่ถูกผู้ใด
กลุ่มผู้ต้องหาจึงได้ขับขี่รถยนต์เก๋งขับไล่ติดตามไป โดยมี นายธนอรรถ นันทศิริ เป็นคนขับ มีนายณรงค์กร หรือเบล ตุ้มฉิม อายุ 25 ปี นั่งด้านข้างผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว โดย นายณรงค์กร ได้ใช้อาวุธปืนไล่ยิง ทำให้กลุ่มผู้ตายต่างพากันแยกย้ายกันหลบหนี ส่วนผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปในวัดพระญาติ และถูกยิงจนเสียชีวิต จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้แยกย้ายกันหลบหนี ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ และจากกล้องวงจรปิดจนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้
สาเหตุเกิดจากกลุ่มผู้ต้องหา และผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน และมาเจอกันในสถานบันเทิงในย่านตลาดแกรนด์ ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และมีเหตุทะเลาะวิวาทกัน และได้แยกย้ายกันออกมา หลังผับเลิกจนกระทั่งมาเจอกันจึงได้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงกันจนทำให้ผู้เสียชีวิตดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อคืนวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.ท.ขวัญชัย เผือกพูนผล รอง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย ได้เข้าตรวจสถานบันเทิงในย่านตลาดแกรนด์ ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นแหล่งสถานบันเทิงขนาดใหญ่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำการซุ่มตรวจหาสิ่งเสพติด อาวุธปืน สิ่งที่ผิดกฎหมาย และเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่ากำหนด
จากการเข้าตรวจค้นภายในร้านเวียงจันทร์ อยุธยา พบกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงประมาณ 150 คน จึงทำการตรวจค้นอย่างละเอียด โดยพบว่า ภายในร้านมีการบริการบารากุให้นักท่องเที่ยวด้วย เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดมาตรวจสอบ นอกจากนี้ ขณะทำการตรวจค้น นายกู้เกียรติ์ เทียมสิงห์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 252 หมู่ที่ 2 ต.งิ้วราย อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นการ์ดคุมผับได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ และตรวจค้นในตัวพบใบกระท่อมจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดี
พ.ต.อ.สุเทพ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงครั้งนี้พบว่า ในระยะหลังกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงย่านตลาดแกรนด์ มักจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันด้วยความรุนแรง โดยล่าสุด เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันในสถานบันเทิง เมื่อออกจากสถานบันเทิงได้ขับขี่รถยนต์ไล่ยิงกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องปรามเหตุอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น โดยมีการวางมาตราฐานการตรวจ 3 ข้อหลักประกอบด้วย การตรวจหาสารเสพติดของผู้ใช้บริการ ตรวจหาอาวุธปืน การตรวจใบอนุญาตประกอบการ และตรวจผู้เข้าใช้บริการที่อายุไม่ถึงกำหนด ต่อจากนี้การตรวจจะเพิ่มความถี่ และความเข้มในการตรวจ