นครปฐม - กลุ่มตัวแทนหอการค้าจังหวัด 4 จังหวัดภาคกลางตอนล่าง และผู้แทนสภาอุตสาหกรรม 4 จังหวัดภาคกลางตอนล่าง พร้อมผู้แทนสมาคมท่องเที่ยวภาคกลางตอนล่าง ร่วมร่างหนังสือปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การใช้จ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2560
ที่ห้องประชุม บริษัท ทรอปิคานา ออยล์ จำกัด เลขที่ 165 หมู่ 1 ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มตัวแทนหอการค้าจังหวัด 4 จังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ผู้แทนสภาอุตสาหกรรม 4 จังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 และผู้แทนสมาคมท่องเที่ยวภาคกลางตอนล่าง 1 ประกอบด้วย นายแพทย์ทรงชัย ศรีโรจนกุล ผู้แทนหอการค้าจังหวัดนครปฐม นายสุรเดช นิลเอก ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม และ ดร.สุธีรา ศรีเบญจโชติ ผู้แทนสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมลงนามในหนังสือเพื่อจะนำยื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องขอแสดงความห่วงใยในการพิจารณาอนุมัติโครงการตามแผนงบประมาณปี 2560
โดยนายแพทย์ทรงชัย ศรีโรจนกุล ในฐานะผู้แทนหอการค้าจังหวัดนครปฐม เผยถึงแผนการบริหารจัดการจังหวัดแบบบูรณาการ ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีแนวทางการพิจารณาในด้านการส่งเสริม การพัฒนาเพื่อส่งผลต่อการสร้างความเจริญเติบโตของจังหวัด โดยให้กลุ่มจังหวัด ร่วมกับภาคเอกชน ภาคประชาสังคม มหาวิทยาลัย ประชารัฐ ร่วมกันจัดทำโครงการที่เป็นลักษณะ local economy หรือการพัฒนาท้องถิ่นให้เข้มแข็งยั่งยืน โดยมีภาครัฐเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนงบประมาณ และการดำเนินการแต่จากกระบวนการจัดทำโครงการดังกล่าวด้วยระยะเวลาการศึกษา พิจารณา ข้อมูล และรายละเอียด
ในบางโครงการยังมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาเพื่อศึกษาเพิ่มเติม รวมถึงการศึกษาโครงสร้างทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม และประชากรในท้องถิ่นที่เป็นกำลังหลัก ซึ่งการที่จะให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการระดมความคิดเห็น เพื่อให้ผลโครงการแต่ละโครงการที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณสามารถบังคับขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมได้อย่างแข็งแรง และยั่งยืน เป็นไปตามแนวทางการพัฒนาประเทศในอนาคต หรือการส่งเสริมให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ด้วยนวัตกรรม Value based ecomomy ตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0
ทั้งนี้ ในการประชุมหารือร่วมกัน ทางกลุ่มฯ จึงได้มติเห็นชอบร่างหนังสือเพื่อนำเรียนขอแสดงความห่วงใยมายังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ชะลอการพิจารณาอนุมัติโครงการ และงบประมาณต่างๆ โดยขอให้เพิ่มระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็น การศึกษา ข้อมูลในทุกทุกด้านอย่างละเอียดทุกภาคส่วนเพื่อให้ได้มีส่วนร่วม และพร้อมเป็นกำลังขับเคลื่อนจังหวัดอย่างแท้จริง เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการ งบประมาณพัฒนาจังหวัด และการร่างหนังสือครั้งนี้มิใช่เป็นการคัดค้าน แต่เป็นการเสนอแนะความคิดเห็นในฐานะภาคเอกชน เพื่อจะได้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยรวมแก่ประเทศชาติ