ศูนย์ข่าวศรีราชา - คสช.ประกาศชัดงานนี้ไม่มีปรับ ตรวจยึดรถสถานเดียวสองแถวนอกกรอบหลังดีเดย์จัดระเบียบ ด้านตำรวจขานรับนโยบายเข้มงวดจริงจังไม่มีอะลุ่มอล่วย หากพบผิดวินัยจราจรปรับหนักสถานเดียว
จากกรณีที่ คสช.ที่มีนโยบายเด็ดขาดในการกวดขันจัดระเบียบรถยนต์โดยสารสาธารณะใหม่ หลังพบว่า ที่ผ่านมามีปัญหาอย่างต่อเนื่องจนส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจร และภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากปริมาณรถโดยสารที่มีอยู่เป็นจำนวนมากเกินความจำเป็น อีกทั้งการบริหารจัดการยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายก็ยังไม่เข้มงวดมากนัก ส่งผลให้มีปัญหาหลายประการ ทั้งการใช้พื้นที่ถนนสาธารณะเป็นจุดจอดพักรถ การรับส่งผู้โดยสารนอกป้าย การจอดซ้อนคัน การวิ่งนอกเส้นที่สัมปทาน การเรียกเก็บค่าบริการในลักษณะการเช่าเหมา รวมทั้งการไม่มีวินัยในการขับขี่ เป็นต้น พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมเร่งด่วนนั้น
ล่าสุด วันนี้ (14 ธ.ค.) ณ ที่ทำการสหกรณ์เดินรถพัทยา จำกัด ซอยสุขุมวิท 3 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กลุ่มผู้ประกอบรถสหกรณ์สองแถวพัทยากว่า 400 ราย เดินทางเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังนโยบายและแนวทางการจัดระเบียบการเดินรถสาธารณะอย่างเป็นทางการ หลัง คสช.ได้ออกมาตรการในปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะมีผลในวันที่ 24 ธันวาคมศกนี้ โดยมี นายศักดิ์สิทธิ์ แย้มศรี สมาชิกสภาเมืองพัทยา ตัวแทนจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และคณะกรรมการสหกรณ์เดินรถพัทยาเข้าร่วม
ด้าน ร.ต.อ.สำเร็จ จันทร์วิเศษ รอง สว.จร.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับปัญหารถโดยสารสาธารณะในพื้นที่เมืองพัทยา เป็นปัญหามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เนื่องจากปริมาณของผู้ประกอบการมีมาก และมีปัญหาเรื่องของวินัยในการขับขี่ ทั้งการไล่นักท่องเที่ยว การจอดรถซ้อนคัน การจอดรถในที่ห้าม การกลับรถในที่คับขัน การไม่วิ่งตามเส้นทางสัมปทาน หรือการจอดในที่ห้าม ซึ่งปัจจุบันได้มีคำสั่งเป็นนโยบายอย่างเด็ดขาดเพื่อให้ดำเนินการอย่างจริงจังที่จะให้เกิดความสอดคล้องต่อแผนการจัดระเบียบของภาครัฐ
โดยจากนี้จะมีการจัดกำลังเฝ้าระวังตรวจสอบ และกวดขันการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง 100% ซึ่งจะไม่มีการร้องขอเพื่อขอผ่อนปรนแต่อย่างใดอีก พร้อมจะทำการจับปรับด้วยอัตราโทษสูงสุดตามกฎหมาย
ขณะที่ ร.ท.สันติบาล แสนดี หัวหน้าชุด คสช.พื้นที่อำเภอบางละมุง ระบุว่า การจัดระเบียบครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อให้เกิดความถูกต้อง และลดปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ โดยไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง หรือจัดระเบียบขึ้นใหม่ แต่เป็นการดำเนินการตามเส้นทางสัมปทานที่ทางสหกรณ์ของอนุญาตไว้ต่อกรมขนส่งทางบก คือ การวิ่งรับส่งผู้โดยสารใน 4 สายหลัก
ประกอบด้วย สาย 5 หมู่บ้านเจริญรัตน์ นาเกลือ-จอมเทียน สาย 6 วงกลมพัทยา สาย 4 แหลมบาลีฮาย-อำเภอบางละมุง และสาย 7 พัทยาเหนือ-นาจอมเทียน ในจำนวนรถทั้งหมด 712 คัน ซึ่งมีการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารตามที่กำหนด คือ 10 บาทต่อคนต่อเที่ยว ซึ่งจากนี้ผู้ประกอบการจะต้องวิ่งตามเส้นทางอย่างเคร่งครัด
โดยที่ตัวรถจะมีการติดสติกเกอร์ระบุสาย และเส้นทางที่ชัดเจน พร้อมการควบคุมรถจากต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งหากพบว่ามีการวิ่งรถออกนอกเส้นทาง การรับส่งนอกป้าย หรือจอดในที่ห้าม และการประพฤติตนไม่เหมาะสม เช่น การแต่งกาย หรือกิริยาที่ไม่สุภาพ รวมทั้งการรับส่งผู้โดยสารในระบบเหมาคันขณะกำลังวิ่งตามเส้นทางจะถือว่ามีความผิด และจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยจะไม่มีการเปรียบเทียบปรับ แต่จะใช้วิธีการตรวจยึดรถไว้ 3 วัน 5 วัน และยกเลิกการประกอบการ
ร.ท.สันติบาล กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีของการจ้างเหมานั้น สามารถกระทำได้เฉพาะในจุดที่กำหนด หรือมีการแจ้งต่อนายท่าไว้เป็นการเบื้องต้น โดยจะไม่อนุญาตให้มีการแวะรับระหว่างทางเด็ดขาด เนื่องจากรถสหกรณ์สองแถวเป็นรถโดยสารในลักษณะวิ่งประจำเส้นทาง ซึ่งหากอยากรับผู้โดยสารในลักษณะเช่าเหมา หรือจอดรอรับตามสถานประกอบการต่างๆ ก็ให้ไปขอสัมปทานจากกรมการขนส่งใหม่ แต่หากยังเป็นรถสหกรณ์สองแถวอยู่ การกระทำดังกล่าวจะถือว่าเป็นความผิด
ขณะที่ปัญหาเรื่องของแท็กซี่ป้ายดำ หรือรถที่ลักลอบให้บริการอย่างผิดกฎหมายนั้น จากนี้จะมีมาตรการดำเนินการกวดขันจับกุมอย่างจริงจังเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะเริ่มขึ้นภายในการประกาศดีเดย์วันที่ 24 ธันวาคมนี้