บุรีรัมย์ - แชร์ว่อนโลกโซเชียล หนุ่มเซลส์เลือดร้อนใช้ขวดเหล้าตีศีรษะหนุ่มช่างภาพอิสระในสถานบันเทิงชื่อดังบุรีรัมย์ เพียงเพราะไม่พอใจที่ผู้ตายให้ทิปพนักงานนวดมากกว่า 20 บาท อ้างถูกหยาม ขณะญาติผู้ตายวอนตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุดเพราะการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ เผยติดใจตำรวจให้ประกันตัวเร็วเกินไปทั้งที่ยังไม่ได้สอบปากคำพยานผู้เสียหาย
วันนี้ (13 ธ.ค.) หลังจากสังคมออนไลน์ได้มีการโพสต์แชร์เรื่องราวกรณีที่ นายชาคริต พูลสวัสดิ์รัตนพงษ์ หรือน้องโบ้ท อายุ 27 ปี หนุ่มช่างภาพอิสระที่จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกนายปราโมทย์ สุริเทศ อายุ 34 ปี หนุ่มเซลส์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ใช้ขวดเหล้าตีศีรษะในสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้นายชาคริตได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นเพื่อนที่ไปด้วยกันได้นำตัวนายชาคริตส่งโรงพยาบาล แต่นายชาคริตได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยสาเหตุเพียงเพราะนายชาคริตเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้จ่ายทิปให้พนักงานนวดในห้องน้ำ 40 บาท มากกว่านายปราโมทย์ ผู้ก่อเหตุ 20 บาท จึงทำให้นายปราโมทย์ใช้ขวดเหล้าตีศีรษะของนายชาคริต และที่สำคัญผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจจับกุมในวันเกิดเหตุได้ใช้สิทธิตามกฎหมายยื่นขอประกันในชั้นพนักงานสอบสวน ครอบครัวและญาติผู้ตายจึงเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กับกรณีที่เกิดขึ้น
ทั้งยังมีชาวสังคมออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสาเหตุของการทำร้ายจนถึงแก่ความตายเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
ล่าสุดทางครอบครัวของเหยื่อได้นำร่างตั้งประกอบพิธีทางศาสนา ณ ศาลาธรรมานุภาพ 2 วัดกลางพระอารามหลวง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติ และเพื่อนๆ ที่มาร่วมงานศพ โดยญาติมีกำหนดฌาปนกิจวันที่ 15 ธ.ค.นี้
นายวิเศษ บทไธสง อาเขยผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ดูแลน้องโบ้ท กล่าวว่า น้องโบ้ทเป็นเด็กนิสัยดี ไม่ค่อยพูด หลังเรียนจบปริญญาตรีทำงานเป็นช่างภาพอิสระ ในวันเกิดเหตุหลังเลิกจากงานแวะไปเที่ยวและกินข้าวกับเพื่อน กระทั่งมีคนโทรศัพท์มาบอกว่าหลานชายถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน รู้สึกตกใจและเสียใจมาก
ยิ่งมาทราบจากเพื่อนที่ไปด้วยกันเล่าให้ฟังว่าสาเหตุที่ถูกทำร้ายเพียงเพราะผู้ก่อเหตุไม่พอใจเรื่องการให้ทิปพนักงานนวดในห้องน้ำเท่านั้น ซึ่งตนมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุทั้งตนและครอบครัวรับไม่ได้ และยิ่งไปกว่านั้นคือทราบว่าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกไปแล้วยิ่งทำให้ครอบครัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งที่ยังไม่ได้สอบปากคำฝั่งผู้เสียหายเลย และญาติก็ไม่ได้รับรู้เลย
หลังจากเสร็จงานศพหลานชายได้คุยกับครอบครัวและญาติว่าจะไปขอดูสำนวนจากพนักงานสอบสวนและเหตุผลที่ให้ประกันตัวรวดเร็วแบบนี้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้หลานชายที่เสียชีวิตด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สุรพล มุ่งมา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งตำรวจไปที่เกิดเหตุและจับกุมผู้ก่อเหตุทันที โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส” เนื่องจากขณะนั้นนายชาคริตยังไม่เสียชีวิต แต่หลังจากผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตทางพนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”
สาเหตุที่พนักงานสอบสวนให้ประกันตัวเนื่องจากได้พิจารณาแล้วว่าการกระทำของผู้ต้องหามีเจตนาทำร้ายร่างกายไม่ได้มีเจตนาทำให้เสียชีวิต ประกอบกับผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชัดเจน และหลักทรัพย์มีความน่าเชื่อถือว่าจะไม่หลบหนี ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ผู้ต้องหาสามารถยื่นขอประกันตัวได้ แต่ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนได้ทำคดีด้วยความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่จากพยานบุคคล พยานวัตถุซึ่งเป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงคำรับสารภาพของผู้ต้องหา เชื่อว่ามีน้ำหนักที่จะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้
