ศรีสะเกษ - คืบหน้ายายโวยเก๋งชนหลานชายบาดเจ็บสาหัสแล้วหลบหนี ล่าสุด “ร.ต.ท.” รอง สว.สส.สภ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ ผู้ขับรถชนโผล่มอบตัวแล้ว พร้อมยกมือไหว้ขอโทษญาติพี่น้องเหยื่อ ประกาศรับผิดชอบค่าพยาบาลและค่าสินไหมทดแทนอ้างหนีเพราะตกใจ ด้านผกก.สภ.ภูสิงห์ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะน้องฟิวอาการยังหนักแพทย์ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ต้องดูแลใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่ นางสมอ ตะเคียนเกลี้ยง อายุ 58 ปี พร้อมด้วยหลาน 4 คน และญาติพี่น้องได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า หลานชาย คือ ด.ช.จารุพันธุ์ เนตรแสงศรี หรือ “น้องฟิว” อายุ 5 ขวบ นักเรียน ชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนบ้านโคกใหญ่ ได้ถูกรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่กำลังเดินไปโรงเรีบน กับพี่สาวและน้องชายฝาแฝดโรงเรียนเดียวกัน โดย น้องฟิว ถูกรถเก๋งชนกระเด็นไปไกลกว่า 13 เมตร สลบคาที่ และได้มี นางจันทรา ปัญญา อายุ 38 ปี เมียผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.14 และ นางชำ ปัญญา อายุ 40 ปี เห็นเหตุการณ์ตลอด และจำหน้าผู้ขับขี่รถคันที่เกิดเหตุได้ และมีภาพวงจรปิดรถเก๋งที่ก่อเหตุเป็นหลักฐาน ซึ่งแม่ของน้องฟิว ได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เพื่อให้ติดตามจับกุมคนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เวลาผ่านไปนานแล้วกว่า 17 วันแล้ว คดีไม่คืบหน้า ขณะที่ น้องฟิวซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสกะโหลกศีรษะร้าว สมองบวม ภาวะหัวใจผิดปกติ ขณะนี้ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.15 น. วันนี้ ( 1 ธ.ค.) ที่บ้านเลขที่ 6 ม.3 บ้านโคกใหญ่ ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นางสมอ ตะเคียนเกลี้ยง อายุ 58 ปี ยายของ ด.ช.จารุพันธุ์ เนตรแสงศรี หรือน้องฟิว อายุ 5 ขวบ ได้มีบรรดาญาติพี่น้องของน้องฟิว นำโดยนายวันชนะ พงษ์สุภา อายุ 42 ปี ลุงของน้องฟิว พากันมารวมตัวเพื่อเดินทางไปยัง สภ.ภูสิงห์ ติดตามความคืบหน้าของคดี และได้นำสื่อมวลชนเดินทางไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุรถชนน้องฟิวด้วย ซึ่ง นางชำ ปัญญา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 ม.14 ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ ผู้เห็นเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดและเห็นหน้าผู้ขับขี่รถอย่างชัดเจน ได้นำสื่อมวลชนไปชี้จุดที่เกิดเหตุ
โดยระบุว่า รถได้พุ่งชนน้องฟิวร่างลอยละลิ่วไปไกลกว่า 13 เมตร ฟุบสลบแน่นิ่งคาที่ โดยนางจันทรา ปัญญา อายุ 38 ปี เมียผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.14 ซึ่งเห็นเหตุการณ์ได้รีบนำร่างของน้องฟิว ขึ้นรถของคันที่ชนขอให้นำตัวน้องฟิวส่งไปยังโรงพยาบาลภูสิงห์ จากนั้น คนขับรถได้ขับรถหลบหนีไป โดยทั้งนางชำ และ นางจันทรา ยืนยันว่า สามารถจำหน้าและรถคันที่ชนน้องฟิวได้อย่างแม่นยำ
จากนั้น คณะญาติพี่น้องของน้องฟิว นำโดย นายชื่น แพงศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.14 บ้านโคกสามัคคี ได้เดินทางไปยัง สภ.ภูสิงห์ โดยทั้งนางชำและนางจันทรา ได้เข้าไปชี้รูปของนายตำรวจคนหนึ่งคือ ร.ต.ต.ณัฐพงษ์ ศิลาวงศ์ รอง สว.สส.สภ.ภูสิงห์ (ยศในขณะนั้น) และยืนยันว่า เป็นคนที่ขับรถชนน้องฟิว ต่อมาคณะญาติของน้องฟิวได้เข้าไปพบกับ พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นเจ้าของคดีนี้
และพบว่าผู้ที่ขับขี่รถชนน้องฟิว คือ ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ ศิลาวงศ์ ตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.ภูสิงห์ ได้เข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับขี่รถชนน้องฟิวจริง พ.ต.ท.ชาคริต จึงได้ทำการสอบปากคำและได้ตั้งข้อหาว่า ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดย ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ ได้มีการเจรจาค่ารักษาพยาบาลของน้องฟิวกับญาติพี่น้องของน้องฟิวด้วย
ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ ศิลาวงศ์ ตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.ภูสิงห์ ผู้ขับขี่รถชนน้องฟิว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังขับรถเพื่อเดินทางมาทำงานตามปกติที่ สภ.ภูสิงห์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ น้องฟิว ได้วิ่งออกมาจากข้างทางอย่างรวดเร็วมาก ทำให้รถของตนชนร่างของน้องฟิว ซึ่งตอนนั้นตนตกใจมากเพราะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ตนเห็นหญิงคนหนึ่งอุ้มน้องฟิวเข้ามาหาแจ้งให้ตนพาน้องฟิวไปโรงพยาบาล ตนจึงได้รีบขับรถพาน้องฟิวส่งไปยัง โรงพยาบาลภูสิงห์
เมื่อถึงโรงพยาบาลภูสิงห์ตนได้ลงจากรถเรียกพยาบาลให้มารับตัวน้องฟิว ด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนจึงได้รีบขับรถออกมา จากนั้น ได้พยายามติดต่อหาญาติพี่น้องของน้องฟิว และเมื่อทราบข่าวจากสื่อมวลชน จึงได้มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ โดยรับสารภาพตลอดข้อหา
ตนต้องขอโทษญาติพี่น้องทุกคนของน้องฟิวที่ได้ขับรถชนน้องฟิว ซึ่งไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเหตุสุดวิสัย เพราะเหตุการณ์กระชั้นชิดมาก จึงไม่สามารถที่จะหักรถหลบน้องฟิวได้พ้น ทำให้เกิดเหตุขึ้นมา และตนพร้อมจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลน้องฟิว จนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ รวมทั้งค่าสินไหมทดแทนด้วย โดย ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ ได้ยกมือไหว้ขอโทษญาติพี่น้องของน้องฟิวทุกคน
ด้าน พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นเจ้าของคดีนี้ กล่าวว่า ญาติของผู้บาดเจ็บได้มาเจรจากับผู้ขับขี่รถ คือ ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ ศิลาวงศ์ ตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.ภูสิงห์ ซึ่งจากการเจรจาค่าเสียหายกันสรุปว่า ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดจนกว่า น้องฟิว จะหายเป็นปกติ จากนั้น จะมีการมาเจรจากันเกี่ยวกับค่าสินไหมกันอีกครั้งหนึ่งต่อไป ซึ่งญาติพี่น้องของน้องฟิวมีความพอใจ ตนจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อประกอบสำนวนคดีตามกฎหมายต่อไป
นายชื่น แพงศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.14 บ้านโคกสามัคคี ซึ่งเป็นญาติของน้องฟิวคนหนึ่ง และเป็นผู้นำในการเจรจาครั้งนี้ กล่าวว่า ในฐานะญาติของน้องฟิว มีความพอใจที่ ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะได้เป็นการช่วยเหลือครอบครัวของน้องฟิว เนื่องจากพ่อแม่ของน้องฟิวมีฐานะยากจนมาก ต้องพากันลาออกจากงานเพื่อมาเฝ้าดูแลน้องฟิวอยู่ที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมาก หมดเงินไปแล้วกว่า 30,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ต้องไปกู้ยืมมาเพื่อช่วยชีวิตลูกชายเอาไว้
โดยขณะนี้อาการของน้องฟิวยังคงอาการหนักมาก แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นอาการทางสมอง และน้องฟิวร้องไห้บอกว่าปวดหัวมาก ซึ่งทราบว่า แพทย์ต้องทำการเอ็กซเรย์อีกครั้งหนึ่งเพื่อทำการรักษาพยาบาลน้องฟิวอย่างเต็มที่ต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล ผกก.สภ.ภูสิงห์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นเจ้าของคดีนี้ ให้ทำการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์และผู้เกี่ยวข้องเรื่องนี้ทั้งหมด ส่วน ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถคันที่เกิดเหตุ ได้มามอบตัวและรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาแล้ว ขอยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ โดยจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป