ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน เดินทางเข้าพบนายอำเภอเทพา ถามถึงการประชุมวันนี้ที่จัดขึ้นเพื่อตั้งกองทุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน หากแต่โดนปฏิเสธ บอกเป็นการประชุมเรื่องการจดทะเบียนสมรสแทน ทั้งที่ทางเครือข่ายฯ มีหนังสือเรียกประชุมด่วนเป็นหลักฐาน
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ สภ.เทพา จ.สงขลา นายมิด ชายเต็ม เครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน กล่าวว่า ได้เดินทางมาร้องเรียนขอให้สอบวินัย นายเกษม รามัญเศษ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากบาง โดยส่งผ่านหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายอำเภอเทพา สืบเนื่องเกี่ยวกับคดีอาญาที่ 452/2558 ปจว.ข้อ 3 ลงวันที่ 17 ธ.ค.58 กรณีได้ถูก นายเกษม รามัญเศษ นายก อบต.ปากบางเทพา อ.เทพา จ.สงขลา กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้าไปที่บ้านยามวิกาล ตบเตะทุบประตูเพื่อเรียกในลักษณะข่มขู่คุกคาม เป็นเวลา 10-15 นาที เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. วันที่ 17 ธ.ค.2558 ทำให้ข้าพเจ้า และครอบครัวซึ่งอยู่ด้วยกันในบ้านเกิดความตกใจ และหวาดกลัว
โดยในวันเกิดเหตุในบ้านของข้าพเจ้ามีบุคคลอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 คน คือ 1.ข้าพเจ้า 2.นายมัธยม ชายเต็ม ลูก อายุ 29 ปี 3.น.ส.พิมล ชายเต็ม ลูก อายุ 31 ปี 4.นางสะปิเย๊าะ ขุนเจริญ ภริยา ซึ่งเป็นลูกของนายโหลน 5.น.ส.นูริสา ชายเต็ม หลาน อายุ 18 ปี 6.ด.ญ.ยูวีตา ขุนเจริญ หลาน อายุ 8 ปี 7.ด.ช.ฟาเดล ดามะลี หลาน ลูกของ น.ส.พิมล ดามะลี อายุ 3 ปี และ 8.ด.ช.ชาคริต ดามะลี หลาน ลูกของ น.ส.พิมล กับ นายยิ่งยศ ดามะลี อายุ 4 ปี
นายมิด กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเทพา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความเป็นคดีแล้ว แต่กระผมเห็นว่า การกระทำของนายเกษม รามัญเศษ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงนายก อบต.ปากบาง เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่สมควรอย่างยิ่ง เป็นการกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ไม่ควรให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่างแก่ใคร ทั้งที่ นายเกษม ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ปกครองท้องถิ่นย่อมต้องดูแลสุขทุกข์ของประชาชน กลับกระทำการอันเป็นการสร้างความไม่สงบสุขเสียเอง ข้าพเจ้าทั้งในฐานะผู้ถูกกระทำ และในฐานะลูกบ้านของนายเกษม จึงมาร้องเรียนเพื่อให้ตรวจสอบความประพฤติดังกล่าวของนายเกษม และมีคำสั่งลงโทษทางวินัยตามกฎหมาย และกฎระเบียบต่อไป
ด้าน นายอัยโยบ มุเซะ เครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน กล่าวว่า วันนี้นอกจากมาร้องเรียนให้สอบวินัย นายก อบต.ปากบาง กรณีข่มขู่คุกคาม นายหมิด ชายเต็ม ทางเครือข่ายได้มาพบ นายบำเหน็จ บินหรีม นายอำเภอเทพา กรณีนายอำเภอออกหนังสือด่วนเรียกประชุมเพื่อจัดตั้งกองทุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน เมื่อเดินทางมาถึงทราบว่า นายอำเภอกำลังประชุมจัดตั้งกองทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินอยู่บนชั้น 2 ของอำเภอ ทางเครือข่ายฯ จึงรออยู่ด้านหน้าอำเภอประมาณครึ่งชั่วโมง นายอำเภอจึงเดินทางลงมาพบ ทางเครือข่ายจึงได้สอบถามนายอำเภอ ว่า ได้จัดประชุมตั้งกองทุนโรงไฟฟ้าใช่หรือไม่ นายบำเหน็จ บินหรีม นายอำเภอเทพาตอบว่า ไม่ได้ประชุมจัดประชุมตั้งกองทุนโรงไฟฟ้า แต่จัดประชุมเรื่องการจดทะเบียนสมรส
นายอัยโยบ กล่าวอีกว่า เมื่อทางเครือข่ายฯ ได้ยินคำที่นายอำเภอเทพาพูด ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจึงรู้สึกโกธร แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้นายอำเภอแต่อย่างใด เพราะทางเครือข่ายฯ ได้ประเมินมาก่อนแล้วว่า นายอำเภอน่าจะพูดประมาณนั้น ในความเป็นจริงนายอำเภอเพิ่งออกมาจากห้องประชุมการจัดตั้งกองทุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน และในห้องประชุมมีการเชิญนักข่าวมาทำข่าวด้วย และนักข่าวที่ถูกเชิญมาทำข่าวได้แจ้งให้ทางเครือข่ายฯ ได้รับทราบ ก่อนที่นายอำเภอจะออกจากห้องประชุมมาพบกับทางเครือข่ายฯ โดยแจ้งว่านายอำเภอกำลังนั่งประชุมอยู่ในห้องชั้น 2 ของอำเภอ
และทางเครือข่ายมีหลักฐานหนังสือเชิญประชุมวันที่ 14 ม.ค.ประทับตราหนังสือด่วนที่สุดที่ลงชื่อ นายบำเหน็จ บินหรีม นายอำเภอเทพา แต่นายอำเภอไม่กล้ายอมรับความจริง การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่น่าเกลียด โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินยังไม่ได้สร้าง เพราะชาวบ้านคัดค้านมาตลอด และที่ผ่านมา กฟผ.ล้มเหลวในการจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินมาหลายจังหวัดแล้ว และที่เทพาก็จะเป็นอีกที่หนึ่งเช่นกัน
ดังนั้น การเร่งรีบในเรื่องจัดตั้งกองทุน จึงเป็นเพียงมายาที่หลอกผู้ที่กระหายเงิน หรือปลอบใจตัวเองเท่านั้น ขอถามว่าการที่นายอำเภอออกหนังสือด่วนเชิญประชุมจัดตั้งกองทุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน เป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอที่จะทำงานให้แก่ กฟผ. หรือเปล่า นายอำเภอจึงขยันขันแข็ง ขณะที่ความเดือดร้อนของชาวบ้านกลับทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ อย่างเช่นเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทางชาวบ้านเดินทางมาพบนายอำเภอ เพื่อสอบถามว่า ทราบเรื่องที่มีช่างรังวัดออกรังวัดที่ดินสาธารณะเพื่อให้โรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ นายอำเภอตอบไม่รู้เรื่อง ปัดความรับผิดชอบให้ไปถามที่ดิน ขอบอกนายอำเภอว่า บทบาทนายอำเภอที่ทำนั้นทำให้ชาวบ้านได้ข้อสรุปแล้วว่า นายอำเภอเป็นคนที่เชื่อไม่ได้ในสายตาชาวบ้าน นายอำเภอเป็นคนที่ไม่มีเครดิต ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป
