ศูนย์ข่าวขอนแก่น - โผล่แล้ว! อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน จังหวัดขอนแก่น ออกมาระบุภาพที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์เป็นการตัดต่อภาพสร้างความเสียหายให้ตนเอง ยันไม่ทำให้ศาสนามัวหมอง ยอมลาสิกขาไปทำการค้าขายส่วนตัว พร้อมนำ 3 บัญชีวงเงินกว่า 1.8 ล้านบาท และรถยนต์ 3 คันคืนให้วัด
วันนี้ (7 ธ.ค. 59) ที่วัดศรีสว่างโนนทัน ถนนโพธิสาร บ้านโนนทัน หมู่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายสมหวัง ชาประวัง อายุ 50 ปี หรืออดีตพระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน ได้เข้าพบกับนายเรือง สุระเสียง ไวยาวัจากรของวัดและพระลูกวัด เพื่อขอมอบกุญแจรถยนต์ของวัดจำนวน 3 คัน พร้อมสมุดบัญชีของธนาคารกรุงเทพ ใช้ชื่อวัดศรีสว่างโนนทัน ที่มีเงินสดในบัญชี 1,716,714 บาท, สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ในชื่อของเงินบำรุงการศึกษาภิกษุและสามเณรของวัดศรีสว่างโนนทัน มีเงินสดในบัญชี 17,040 บาท, ธนาคารเกียรตินาคิน ในชื่อสรภัญญะของวัดศรีสว่างโนนทัน มีเงินสดในบัญชี 67,913 บาท
นายสมหวัง ชาประวัง หรืออดีตพระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาแถลงข่าวพร้อมด้วยคณะกรรมการวัด และพระในวัดศรีสว่างโนนทัน ว่าหลังจากที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นมาว่ามีภาพต่างๆ เกี่ยวกับตนในโซเชียลมีเดียเกิดความไม่สบายใจ จึงขอชี้แจงให้สังคมรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน ไม่ต้องการให้พระศาสนาหรือเรื่องต่างๆ ที่ไม่ดีแก่พระศาสนา จึงตัดสินใจลาสิกขาเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“ผมไม่มีความผิด เป็นเรื่องของมนุษย์ทั่วไปที่อาจผิดพลาดขึ้นได้ โดยเฉพาะภาพกับผู้หญิงคนหนึ่งในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นภาพเกิดขึ้นหลังจากสึกแล้ว เชื่อว่าภาพที่เห็นมาก่อนหน้านั้นอาจเป็นภาพที่ตัดต่อขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่กรุงเทพฯ และสถานที่อื่นๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในภาพ ผมรู้จักกับเธอที่วัดเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา มาทำบุญที่วัดตามปกติ แต่เมื่อมีข่าวออกไปได้มีสื่อไปว่าและประณามให้เธอเสียหายโดยที่เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมแม้แต่นิดเดียว จึงอยากขอโทษกับผู้หญิงที่อยู่ในภาพที่ทำให้เกิดความเสียหาย” นายสมหวังกล่าว และว่าช่วงที่เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทันได้เป็นพระนักพัฒนาที่เคร่งครัดพระธรรมวินัย เป็นพระผู้เสียสละรูปหนึ่งในวงการสงฆ์ของจังหวัดขอนแก่น เมื่อมีเรื่องไม่ดีแก่พุทธศาสนา ตนเป็นลูกผู้ชายไม่ต้องการให้พระผู้ใหญ่หนักใจ วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา จึงตัดสินใจลาสิกขาให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีแก่ผู้หญิงที่อยู่ในภาพกับตนในโลกโซเชียลฯ ขอชี้แจงต่อสังคมให้รับทราบในการลาสิกขาบท ต้องขออภัยประชาชนที่ศรัทธาด้วย ขอลาพระทุกรูป คณะกรรมการวัดทุกคน เพื่อไปทำหน้าที่ของฆราวาส ซึ่งจะทำการค้าเหมือนคนทั่วไป เป็นการตัดสินใจดีที่สุด ไม่ต้องการให้พระศาสนามัวหมองเกี่ยวกับตน โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงที่มีภาพคู่กับตนในโลกโซเชียลฯ
ด้านนายเรือง สุระเสียง ไวยาวัจกรของวัดศรีสว่างโนนทัน เปิดเผยว่า พระครูเมธีกิตติวรญาณ รองเจ้าคณะอำเภอเมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น คณะกรรมการวัด อุบาสกอุบาสิกา ได้ประชุมกันที่พระอุโบสถของวัด ได้ข้อสรุปว่า ช่วงที่พระครูโอภาสธรรมวิภัชได้ลาสิกขาบทเป็นฆราวาส ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง ที่ประชุมจึงได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อสุทัศน์ กิตตระโต อายุประมาณ 68 ปี พระลูกวัดที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสมาโดยตลอด รักษาการไปจนกว่าเจ้าคณะอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นจะได้แต่งตั้งให้พระรูปใดมาเป็นเจ้าอาวาส พร้อมกับได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลทรัพย์สินของวัด และบริหารวัดให้คงอยู่ในสภาพเดิม และให้เจริญก้าวหน้าเหมือนที่เจ้าอาวาสองค์เดิมอยู่ และสำนักพุทธฯจะได้เข้ามาตรวจสอบทุกสัปดาห์จนกว่าจะมีเจ้าอาวาสรูปใหม่มาทำหน้าที่พัฒนาวัดศรีสว่างโนนทัน