ศูนย์ข่าวศรีราชา - รถโดยสารใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) ของ ขสมก.ที่จะนำมาให้บริการภายในกรุงเทพมหานคร ล็อตที่ 2 อีก 145 คัน เตรียมนำเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง เพิ่มอีก หลังล็อตแรก 100 คัน ยังติดค้างในท่าเรือ C0 ศุลกากรรอตรวจสอบความชัดเจนของแหล่งผลิตว่าจะมีการหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่
แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า ขณะนี้รถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) จำนวน 100 คัน ของ ขสมก.ยังถูกกักไว้ที่ท่าเรือ C0 ในท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากกรมศุลกากร ตั้งข้อสังเกตว่า สินค้าดังกล่าวอาจไม่ได้ผลิตในประเทศมาเลเซีย เพราะตามเงื่อนไขในสัญญาระบุว่า รถดังกล่าวจะต้องผลิตในประเทศอาเซียน คือ ประเทศมาเลเซีย แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า อะไหล่บางชิ้น และเครื่องยนต์ผลิตจากประเทศจีนทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมศุลกากร ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อไปดูโรงงานผลิตว่ามีการผลิตจริงหรือไม่อย่างไร เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากพบว่าผลิตในประเทศจีน อาจเป็นการเลี่ยงภาษี โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 1.2 ล้านบาทต่อคัน
โดยทราบว่าในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ (8 ธ.ค.) จะมีเรือบรรทุกรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) ล็อตที่ 2 อีกจำนวน 145 คัน มาที่ท่าเรือ C0 ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะต้องนำมาลงจอดไว้บนลานจอดรถภายในท่าเรือ C0 โดยไม่สามารถนำออกไปได้เหมือนล็อตแรกจนกว่าจะมีการตรวจสอบจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ผู้นำเข้าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้พื้นที่จอดรถโดยสารชุดนี้ให้กับเจ้าของท่าเรือ C0 ด้วย ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาพิสูจน์ทราบนานนับเดือน
“ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด ว่า แหล่งผลิตมาจากประเทศอะไรกันแน่ ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องผลิตในประเทศอาเซียน คือ ประเทศมาเลเซีย หากผิดสัญญาจะต้องถูกยกเลิก ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด และรอบคอบ ซึ่งทางกรมศุลกากรจะเป็นผู้ชี้แจงข้อเท็จจริงเองทั้งหมด” แหล่งข่าวจากกรมศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กล่าว
ล่าสุด ทางบริษัทนำเข้ารถโดยสารดังกล่าว กล่าวว่า สั่งห้ามสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าไปเก็บภาพบรรยากาศภายในท่าเรือ C0 แล้ว