ศูนย์ข่าวศรีราชา - รถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) ของ ขสมก.ที่จะนำมาให้บริการภายในกรุงเทพมหานคร ล็อตแรก จำนวน 100 คัน จากทั้งหมด 498 คัน ติดค้างในท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2559 หลังกรมศุลกากร ยังไม่ปล่อยออกมา หลังพบพิรุธแจ้งนำเข้าจากมาเลเซีย เพื่อใช้สิทธิลดภาษี แต่น่าสงสัยว่าจะส่งมาจากจีน
วันนี้ (6 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังท่าเรือ C0 ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยพบรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 100 คัน จอดค้างอยู่ในบริเวณประตูทางออกของท่าเรือ C0 โดยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของท่าเรือ C0 ว่า รถจำนวนดังกล่าวได้มาถึงท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ติดปัญหาเรื่องหนังสือรับรองที่ยื่นขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีศุลกากร หรือ FORM D โดยแจ้งว่าเป็นการนำเข้าจากมาเลเซียเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในกลุ่มอาเซียน แต่มีพิรุธน่าสงสัยว่า รถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าวน่าจะผลิตในประเทศจีนแล้วส่งผ่านมาทางมาเลเซีย ทำให้รถยังติดค้างอยู่ที่ท่าเรือ C0 อยู่ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้คงนำออกไปได้ เนื่องจากผู้ใหญ่ระดับสูงกำลังเจรจากันอยู่
ขณะนี้รถจำนวนดังกล่าวยังไม่สามารถนำออกไปได้ ซึ่งทำให้จะถูกปรับค่าจอดท่าวันละกว่า 1 แสนบาท ขณะนี้ถูกปรับมาแล้ว 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-6 ธันวาคมนี้ และในวันที่ 7 ธันวาคม จะมีนำเข้ามาอีก จำนวน 145 คัน
แหล่งข่าวจากท่าเรือ C0 กล่าวต่อไปว่า ตามโครงการรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะนำเข้ามาทั้งสิ้น 489 คัน โดยจะนำมาให้บริการภายในกรุงเทพมหานคร และในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ จะนำมาทดลองวิ่งรับประชาชนที่จะเดินทางไปถวายบังคมพระบรมศพ
ล่าสุด นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับรถดังกล่าวว่า ได้ตั้งข้อสงสัยการสำแดงการขนส่งโดยตู้คอนเทนเนอร์ต้นทางมาจากประเทศจีนไปมาเลเซีย ก่อนมาถึงประเทศไทย โดยตั้งข้อสังเกตสินค้าดังกล่าวอาจจะไม่ได้ผลิตในประเทศมาเลเซียตามที่แจ้ง และกรมศุลกากร เตรียมตรวจสอบเพิ่มเติมพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าผลิตในประเทศจีนทั้งคันหรือไม่ เพราะอาจเป็นการดำเนินการเลี่ยงภาษี โดยมีมูลค่าความเสียหาย 1.2 ล้านบาทต่อคัน ทางศุลกากร จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป