อุบลราชธานี - นรข.อุบลราชธานี ร่วมตำรวจ ฝ่ายปกครองซุ่มจับแก๊งค้ายานรกข้ามชาติ แต่ขบวนค้ายาบ้าขัดขืนยิงสู้ ทำให้ปะทะนานเกือบ 10 นาที ก่อนแก๊งค้ายายอมล่าถอย ขับเรือข้ามลำน้ำโขงกลับเข้าประเทศ ทิ้งสมาชิกแก๊งที่บาดเจ็บไว้ให้ไทยช่วยเหลือ 1 คน ยึดยาบ้าได้ทั้งสิ้น 200,000 เม็ด
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด พล.ร.ต.วราห์ แทนคำ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตจังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.อ.ปรัชญา คงสกุล ผกก.สภ.เขมราฐ และนายปัญญา เศวตธรรม นายอำเภอเขมราฐ
ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม ท้าวพอน ไม่มีนามสกุล อายุ 35 ปี ราษฎรบ้านท่าแพ เมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด ขณะร่วมกับพวกที่หลบหนีไปได้ลักลอบนำยาบ้าใส่เรือขับข้ามแม่น้ำโขงมาส่งให้แก่ขบวนการค้ายาบ้าชาวไทย ด้านทิศตะวันออกบ้านนาเมือง ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตจังหวัดอุบลราชธานี (นรข.) ได้รับแจ้งว่า จะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดชาวลาวลักลอบข้ามแม่น้ำโขงมาขึ้นท่าน้ำบ้านนาเมือง ต.เขมราฐ จึงสนธิกำลังกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่วางกำลังดักจับ
ถึงเวลาพบเรือหางยาวมีชายนั่งมาในเรือ 5-6 คน แล่นข้ามฝั่งมาจากเมืองสองคอน โดยคนทั้งหมดใช้พายแทนการใช้เครื่องยนต์เพื่อกลบเสียงไม่ให้ดัง เมื่อเรือแล่นมาจอดที่ท่าน้ำบ้านนาเมือง จากนั้น ท้าวพอน ได้หิ้วถุงปุ๋ยลงจากเรือเดินขึ้นมาบนฝั่ง เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น เมื่อชุดคุ้มกันกลุ่มนักค้ายาบ้าเห็นเป็นเจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงเร็วเข้าใส่ ทำให้เกิดการปะทะกันนานเกือบ 10 นาที
ก่อนพากันล่าถอยขับเรือหางยาวหนีข้ามฝั่งแม่น้ำโขงกลับเข้าประเทศลาว โดยทิ้งท้าวพอน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งหลบหนีระหว่างปะทะกัน ทำให้ศีรษะกระแทกกับโขดหินริมแม่น้ำได้รับบาดเจ็บ ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ เนื่องจากมีอาการสาหัส
นายสมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ เพราะประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบ จนช่วยสกัดกั้นไม่ให้เครือข่ายยาเสพติดนำยาบ้าเข้ามามอมเมาเยาวชน และประชาชนไทย ซึ่งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ยังมีการวางกำลังกวดขันตามจุดสำคัญ เพื่อป้องกันไม่เปิดโอกาสให้ขบวนการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนสามารถลักลอบนำเข้ามาได้ด้วย
