ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำแถลงผลการสกัดกั้นและจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่เชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง รวม 5 คดี ได้ผู้ต้องหา 7 คน ของกลางยาบ้าเกือบ 3 แสนเม็ด และไอซ์ พร้อมทรัพย์สิน คาดมูลค่ารวม 50 ล้านบาท
วันนี้ (13 ส.ค. 58) พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ 5 คดี
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากยุทธศาสตร์การสกัดกั้นยาเสพติดของทางเจ้าหน้าที่ทั้ง 43 ด่านตรวจในพื้นที่ภาคเหนือทั้งในเส้นทางสายหลัก และสายรอง
คดีแรกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด่านตรวจท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย จับกุมตัวนายอภิสิทธิ์ อ้ายหลวง อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 107/1 ม.7 ต.ทุ่งต้อม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายประทิน หล้านอด อายุ 22 ปี และนายธีรยุทธ จันทร์ตา อายุ 16 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 260,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในยางอะไหล่รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขร-7252 เชียงใหม่ พยายามจะใช้เส้นทางดังกล่าวขนยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้าพื้นที่ชั้นใน
รายที่ 2 จับกุมตัวนายมลทัน ทะนันไธสง ชาวอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ ที่วงแหวนรอบ 3 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ของกลางยาบ้า 30,800 เม็ดซุกซ่อนในรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ หมายเลขทะเบียน ผล 7322 เชียงใหม่ ขณะกำลังนำไปส่งให้เอเยนต์ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่
รายที่ 3 สภ.เมืองลำปาง จับกุมตัวนายกิตติชัย การะถัน อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,020 เม็ดไอซ์ 71.30 กรัม รายที่ 4 สภ.เมืองลำปาง จับกุมตัวนางจันทร์ พุทธัมบุตร อายุ 54 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 196 เม็ด
และรายที่ 5 จับกุมนางกัญญณัช ชัยมงคล อายุ 36 ปี ที่ด่านตรวจผาหงส์ สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ได้ยาบ้า 26 เม็ด ไอซ์ 2 กรัม สรุปผลการจับกุม 5 รายได้ของกลางยาบ้ารวม 293,042 เม็ด ไอซ์ 73.3 กรัม ผู้ต้องหา 7 คน ยึดรถยนต์ 3 คัน โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง เพื่อขยายผลจับกุมเครือข่าย และยึดทรัพย์ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า มูลค่ายาเสพติดและของกลางทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้มีมูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านบาท โดยช่วงนี้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดจะอาศัยช่วงนี้ที่เกิดฝนตกหนัก และเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่แฝงตัวลักลอบขนยาเสพติด เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่อาจจะหย่อนยานในการสกัดกั้นยาเสพติด แต่ที่จริงแล้วยังคงทำงานกันอย่างเต็มที่ แม้ผู้ค้าจะใช้วิธีการต่างๆ ตบตา อย่างครั้งนี้ที่ซุกยาเสพติดในยางรถก็ยังสามารถตรวจค้น และจับกุมได้ โดยจากนี้จะขยายผลต่อไป
