ผบช.ปส. แถลงผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ 2 คดี พร้อมของกลางยาบ้า 9 หมื่นเม็ด และ กัญชา 200 กิโลกรัม เผยเล่ห์วิธีอำพรางยาบ้าโดยการเอาใส่ในกล่องแล้วเอากระทะไฟฟ้าวางทับอีกที
วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พล.ต.ต.ไชยยา รุจจนเวท ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี พร้อมของกลางยาบ้า 90,000 เม็ด กัญชา 200 กิโลกรัม
คดีแรกจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน คือ นายวัชรพงษ์ ศรีสวัสดิ์ หรือ นายก๊อต อายุ 23 ปี นายณัฐพล มงคล หรือ นายณัฐ อายุ 23 ปี นายจักรพันธ์ รุ่งสุวรรณ หรือ นายอ้น อายุ 24 ปี นายธีรศักดิ์ ชูสวัสดิ์ หรือ นายเล็ก อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 45 มัด หรือประมาณ 90,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิวฟี สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กญ 3709 กทม. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน ขพท 489 ภูเก็ต โดยสามารถจับกุมได้บริเวณบริษัท เอส.ดี. เอ็กซ์เพลส จำกัด เลขที่ 212-214 ถ.จารุเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า วันนี้มีการจับกุม 2 คดี โดยสามารถจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด (กัญชา) หนักประมาณ 200 กิโลกรัม และคดีจับยาบ้า จำนวน 90,000 เม็ด แม้จะจับกุมได้จำนวนน้อย แต่นี่คือครั้งแรกที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่เคยจับได้ขนาดนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมีพฤติการณ์ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคเหนือมาพักที่บ้านนายณัฐ ผู้ต้องหา ย่านถนนนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม และจะนำยาบ้าส่งให้ลูกค้าทางภาคใต้ ผ่านทางบริษัทรับจ้างขนส่งพัสดุ โดยใช้รถเก๋ง นิสสัน สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กญ-3709 กทม. เป็นพาหนะ ซึ่งในวันที่ 19 มิ.ย. 58 เวลาประมาณ 08.00 น. นายวัชรพล และ นายณัฐพล ได้ขับรถออกจากบ้านย่านบึงกุ่มไปยังบริษัท เอส.ดี. เอ็กซ์เพลส จำกัด เลขที่ 212-214 ถนนจารุเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ซึ่งเป็นบริษัทรับขนส่งพัสดุ โดยได้ยกกล่องพัสดุขึ้นรถไปจำนวน 2 กล่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นบริเวณสะพานไทย - ญี่ปุ่น ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขต บางรัก กทม. พบยาบ้า จำนวน 45 มัด หรือประมาณ 90,000 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง ซึ่งตรวจค้นพบ ใบเสร็จส่งของปลายทางจังหวัดภูเก็ต
จากการสอบสวน นายจักรพันธ์ และ นายธีรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางมารับกล่องดังกล่าว ตามคำสั่งของนายสาคร รุ่งสุวรรณ แต่นายสาครไหวตัวหลบหนีไปได้ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ด้าน นายวัชรพงษ์ (ผู้ต้องหา) ให้การว่า ตนเคยรับจ้างขนยาบ้า ประมาณ 3 - 4 ครั้ง โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 200,000 บาท ซึ่งครั้งนี้ตนได้คิดนำเอาอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามาประกอบการอำพรางยาบ้าด้วย โดยการนำเอายาบ้าใส่ในกล่องกระทะไฟฟ้า แล้วเอากระทะไฟฟ้าทับอีกครั้ง เพื่ออำพรางยาบ้า และทำการส่งพัสดุ
คดีที่สอง จับกุม นายหนูผัน บุญมา อายุ 36 ปี และ นายประทีป จันทร์สมุดทร อายุ 45 ปี พร้อมของกลางยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) หนักประมาณ 200 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม หมายเลขทะเบียน กท 6153 ลพบุรี จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง แผ่นป้ายทะเบียนปลอมจำนวน 4 แผ่นป้าย โดยสามารถจับกุมได้ที่ ทางเข้าหมู่บ้านสีดาสระแก้ว ข้างโรงเรียนสีดาสระแก้ว หมู่ 4 ตำบลโพนทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.ไชยา กล่าวว่า ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติดได้สั่งการให้เฝ้าระวังกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้งเข้าสู่ฤดูฝน มักจะมีการลำเลียงยาเสพติดออกจากพื้นที่ จึงได้สืบสวนหาข่าวเพื่อสกัดกั้นการขนลำเลียงยาเสพติด พบว่าบริเวณเขตติดต่อระหว่างจังหวัดนครพนม กับพื้นที่ตอนใน จากการตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัยติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหมายเลขทะเบียน กท 6153 ลพบุรี โดยผ่านในเส้นทางเขตตำบลโพนทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม จึงสกัดกั้นจับกุมพบ นายหนูผัน ทำหน้าที่เป็นคนขับ และ นายประทีป นั่งโดยสารมาด้วย พบของกลางกัญชา หนักประมาณ 200 กิโลกรัม ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป