นครพนม - นรข.สกัดจับกุมแก๊งค้ากัญชาข้ามชาติเป็นหนุ่มแรงงานไทย มีเมียลาว รับจ้างขน ยึดของกลางกว่า 200 กิโลกรัม ขณะลำเลียงลงเรือริมแม่น้ำโขง คาดทะลักช่วงหน้าฝนเตรียมสต๊อกขาย เดือนเดียวพื้นที่นครพนมยึดได้นับ 1,000 กิโลกรัม ผบ.นรข.สั่งเข้มลดตระเวนชายแดน
วันนี้ (7 ก.ค.) พล.ร.ต.อารักษ์ แก้วเอี่ยม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม ได้สั่งการให้ นาวาโทพิชัยยุทธ ปาจะกัง หัวหน้าสถานีเรือ นรข.นครพนม ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายปกครอง ทหาร กอ.รมน.วางแผนเข้าสกัดจับกุมขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ หลังสืบทราบมาว่า จะมีการลักลอบนำเข้ากัญชามาจากประเทศเพื่อนบ้าน
จนกระทั่งสามารถจับกุมแก๊งค้ากัญชาได้ 1 ราย คือ นายพัฒพร ถาวร อายุ 21 ปี บ้านอยู่ ต.สำโรง อ.โพธิ์ชัย จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแรงงานรับจ้างขนกัญชา ขณะร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 คนลักลอบนำเรือหางยาวบรรทุกกัญชามาจาก สปป.ลาว จำนวน 6 กระสอบ ก่อนนำมาลำเลียงขนส่งต่อมาขายในฝั่งไทยบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงใกล้ศาลปู่ตา บ้านชะโงม ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม
เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุมไว้ได้ พร้อมของกลางกัญชา จำนวน 6 กระสอบปุ๋ย ตรวจนับได้ จำนวน 233 แท่ง น้ำหนักแท่งละ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 233 กิโลกรัม พร้อมตรวจยึดเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ ส่วนผู้กระทำผิดอีก 3 คน ไหวตัวทันอาศัยความมืดวิ่งหลบหนี จึงได้จับกุมผู้กระทำผิด และของกลางมาตรวจสอบ
เบื้องต้น จากการสอบสวน นายพัฒพร ถาวร อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า บ้านเกิดเป็นชาว จ.อุบลราชธานี แต่มาอาศัยอยู่กับแม่ที่บ้านดอนดู่ ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ซึ่งมีภรรยาเป็นชาวลาว อยู่กินกันได้ 3 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่เดินทางข้ามไปมาเพื่อมาทำงานรับจ้างทั่วไปเป็นกรรมกรที่ฝั่งไทยซึ่งมาพักอาศัยบ้านเช่าแถวหมู่บ้านไทยสมุทร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม รายได้ไม่เพียงพอจึงอยากหารายได้เสริม
โดยได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวลาว ทำงานพิเศษรับจ้างขนกัญชาที่ชาวลาวนำข้ามมาส่งลูกค่าไทย ได้ค่าจ้างประมาณครั้งละ 5,000 บาท จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ ภายหลังการจับกุมยังตรวจพบสารเสพติดยาบ้าในปัสสาวะ เจ้าตัวสารภาพว่าเสพ ซึ่งจะได้เร่งสอบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี ตามกฎหมาย
ส่วนมูลค่าของกลางคิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท เพราะมีราคาซื้อขายในไทยไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 20,000 บาท
ทางด้าน พล.ร.ต.อารักษ์ แก้วเอี่ยม ผู้กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม กล่าวว่า ได้มีการเพิ่มมาตรการเข้มในพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง จากเหนือถึงอีสาน รวม 9 จังหวัด มี 14 สถานีเรือ ให้เข้มงวดตรวจสอบสกัดกั้นปราบปรามจับกุม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานปัจจุบันระบุว่า น่าห่วง ขบวนการค้ายาเสพติดได้มีการเปลี่ยนเส้นทางมาลักลอบนำเข้าทางอีสาน ซึ่ง ยาบ้า จะนำเข้าสูงทางพื้นที่ จ.เลย และ จ.หนองคาย
ส่วนกัญชา จะเป็นพื้นที่ จ.บึงกาฬ และ จ.นครพนม ที่จะต้องมีการวางแผนสกัดกั้นปราบปรามมากขึ้น เพราะมีปัญหาทั้งกำลังพล รวมถึงงบประมาณ อย่างไรก็ตาม จะได้สร้างความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส ซึ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมาพื้นที่นครพนมมีการจับกุมบ่อยครั้งมากกว่า 1,000 กิโลกรัม