เหมืองทองอัครามอบระบบประปาหมู่บ้านให้ อบต.ดูแลกันเองก่อนปิดกิจการ

พิจิตร - เหมืองทองอัครานับถอยหลัง 30 วัน หยุดกิจการ ปิดตำนานขุมทอง ส่งมอบประปาหมู่บ้านให้ชุมชนดูแลกันเอง

วันนี้ (29 พ.ย.) นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ได้ทำพิธีส่งมอบระบบประปาบาดาลหมู่บ้านที่เหมืองทองอัคราสนับสนุนเป็นเงิน 3,147,058 บาท โดยมี ดร.วิระวรรณ ถิ่นยืนยง นักวิชาการคุณวุฒิด้านสุขาภิบาล ผู้แทนกรมอนามัย และนายมงคล สมวันดี ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำบาดาล ผู้แทนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วย ผู้แทน สสจ.จาก 3 จังหวัด นายก อบต.บริเวณรอยต่อ 3 จังหวัด (พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก) ที่มาร่วมกันรับมอบระบบประปาหมู่บ้านที่ก่อนหน้านี้เหมืองทองอัคราเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงตามคำแนะนำของกรมอนามัย และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทั้งสิ้น 15 แห่ง

นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด กล่าวว่า หลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เหมืองแร่ทองคำชาตรีจะต้องปิดกิจการและปลดพนักงานที่มีมากกว่า 1 พันคนออกจากงาน ขณะนี้มีการแจกซองขาวเป็นเงินเดือนล่วงหน้าตามกฎหมายแรงงาน พร้อมทั้งเงินโบนัสให้กลุ่มแรกไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 ส่วนชุดที่ 2 ได้แจกซองขาวบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน คือแจกซองขาวให้ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559

ส่วนชุดสุดท้ายก็จะหมดสภาพความเป็นพนักงานหลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ทุกคนได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์ แต่จะยังคงมีพนักงานเหลืออยู่ประมาณ 30 คน เพื่อดูแลทรัพย์สินและเคลียร์งานระบบบัญชี ส่วนแนวทางความเป็นไปได้ว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ใหม่อีกครั้งหรือไม่นั้น นายเชิดศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ทำเรื่องชี้แจงไปยังกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ยื่นเรื่องขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปแล้ว ซึ่งปกติใบอนุญาตจะมีอายุคราวละ 5 ปี ว่าขอให้พิจารณาทบทวนและเห็นใจผู้ประกอบการ เพราะทุกอย่างที่ทำมาเป็นไปตามหลักการที่ใส่ใจดูแลห่วงใยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนที่อยู่รอบเหมืองทอง อีกทั้งมั่นใจว่าเหมืองทองอัคราไม่ใช่ต้นเหตุหรือสาเหตุด้านสุขภาพของพนักงานและประชาชนที่อยู่รอบเหมืองทองอัครา จึงมั่นใจว่าเหตุผลและข้อมูลตามหลักวิชาการจะสามารถชี้เหตุผลที่ถูกต้อง โดยเชื่อมั่นว่าความจริงที่ปรากฏจะก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ที่เป็นจริง

ด้านนายชัยพร สุดสิน หัวหน้างานชุมชนสัมพันธ์อาวุโส เปิดใจว่า ทำงานอยู่ในเหมืองทองอัครามา 13 ปี รู้ชะตาชีวิตของตนเองแล้วว่าสิ้นปีนี้อาจเป็นผู้หนึ่งที่ต้องถูกปลดออกจากการปิดโรงงาน ตอนนี้ก็ได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน ขั้นแรกก็จะนำไปใช้หนี้บางส่วน แต่เนื่องด้วยมีครอบครัวและลูกอยู่ในเขตตำบลเขาเจ็ดลูก ก็จะลองลงทุนทำธุรกิจค้าขายเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าไปไม่ไหวอยู่ไม่รอดก็ยอมรับว่าจะต้องย้ายถิ่นฐานกลับบ้านเกิดที่ภาคใต้เพื่อไปหางานทำแห่งใหม่ และหลังสิ้นปีนี้หมู่บ้านในตำบลเขาเจ็ดลูก รวมถึงเขตตลาดสี่แยกเขาทรายและตลาดในอำเภอทับคล้อ จ.พิจิตร คงต้องเงียบเหงาเพราะพนักงานชาวเหมืองทองอัคราฯ ต้องจำใจจำจาก หลังจากปิดกิจการลงดังกล่าว