ทุบแล้ว!! สระว่ายน้ำในทะเลพัทยา

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทุบแล้ว!! สระว่ายน้ำในทะเลพัทยา ด้านเจ้าของโรงแรมรับสภาพ หลังรัฐปิดหมายรุกที่สาธารณะ พร้อมประกาศเลิกประกอบธุรกิจถาวร

จากกรณีที่มีประชาชนได้ร้องเรียนว่า สระว่ายน้ำของโรงแรมโกลเด้นคลิฟเฮาส์ บริเวณเขาพระตำหนัก เลขที่ 352/55 หมู่12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สร้างรุกกล้ำลงไปในทะเล ซึ่งต่อมา ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเมืองพัทยา ได้ตรวจสอบพบว่า มีความผิดจริงตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และรวบรวมหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา

ต่อมา อำเภอบางละมุง ได้เข้าตรวจสอบก่อนดำเนินคดี โดยระบุว่า ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนโรงแรม โดย นายวรรธนันท์ ยิ้มละม้าย ได้ยื่นหลักทรัพย์ 40,000 บาท เพื่อขอประกันตัวชั่วคราว ก่อนที่เมืองพัทยาจะเข้าตรวจสอบพร้อมติดประกาศคำสั่งให้ทำการรื้อถอนในส่วนของสระน้ำในระยะเวลา 15 วัน และระงับการใช้อาคารจนกว่าจะมีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ด้วยทางโรงแรมได้ขออนุญาตใช้เป็นอาคารที่พักอาศัยรวม แต่กลับมีการใช้เป็นกิจการประเภทโรงแรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงแรมโกลเด้น คลิฟเฮาส์ อีกครั้ง โดยพบว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยยังคงกันพื้นที่พร้อมปิดป้ายประกาศปิดกิจการเช่นเดิม จะมีเพียงพนักงานส่วนหนึ่งที่กำลังเก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในเท่านั้น

ต่อมา ได้รับการประสานจาก นายวรรธนันท์ ยิ้มละม้าย อายุ 64 ปี เจ้าของกิจการเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบภายใน โดยเฉพาะบริเวณสระว่ายน้ำที่ถูกปิดหมายให้ทำการรื้อถอน โดยพบว่ามีพนักงานจำนวนหนึ่งกำลังใช้ค้อนทุบทำลายพื้นที่บริเวณโดยรอบ พร้อมใช้เครื่องสูบน้ำออกจากสระน้ำในขณะเดียวกัน

ก่อนที่ นายวรรธนันท์ จะเปิดใจว่า สำหรับโรงแรมแห่งนี้ในอดีตมีลักษณะเป็นบ้านพัก ก่อนที่เจ้าของกิจการเดิมจะมาก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ขึ้นในช่วงปี 2538 ซึ่งดำเนินการพร้อมกับสระว่ายน้ำที่มีปัญหา กระทั่งต่อมา มีกฎหมายเกี่ยวกับโรงแรมในช่วงปี 2550 จึงหันมาประกอบธุรกิจลักษณะให้เช่ารายวันเหมือนโรงแรมทั่วไป และทำการยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมไปแล้ว แต่พบว่าขาดคุณสมบัติบางประการที่ไม่สามารถจดทะเบียนได้ จึงไม่ได้ติดตามผล และทำกิจการเรื่อยมา กระทั่งตัวเองได้เริ่มเข้ามาเช่ากิจการทำต่อในช่วงปี 2558 ซึ่งก็มีทั้งส่วนของห้องเช่า จำนวน 47 ห้อง และสระว่ายน้ำที่มีปัญหารวมอยู่ด้วย กระทั่งมาเกิดปัญหาขึ้นในปัจจุบัน

สำหรับกรณีคำสั่งที่รัฐได้มาดำเนินการ โรงแรมเองก็ยอมรับสภาพทุกอย่างไม่ได้คิดอุทธรณ์คำสั่งแต่อย่างใด พร้อมเร่งจัดหาผู้รับเหมาเพื่อเข้ามาทุบทำลายสระว่ายน้ำเพื่อคืนสภาพตามธรรมชาติดังเดิม ซึ่งใช้งบประมาณกว่าล้านบาท และคงต้องใช้ระยะเวลาช่วงประมาณหนึ่ง

ขณะที่เรื่องของการห้ามใช้อาคารก็คงต้องระงับตามคำสั่ง และคงไม่ไปดำเนินการขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรมแต่อย่างใด เพราะจากนี้คงจะยกเลิกการเช่า และยุติการประกอบการอย่างถาวร ซึ่งปัจจุบันกำลังส่งเงินคืนให้แก่ลูกค้าที่จองห้องพักมาก่อนหน้านี้แล้วทั้งหมด

“ขณะนี้พนักงานก็คงไม่ได้ทำการจ้างงานต่อ และจะยุติการปฏิบัติในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดยจะมีการจ่ายค่าชดเชยให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนที่ว่าจะกลับมาเปิดให้บริการใหม่อีกหรือไม่นั้นคงยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร คงเป็นเรื่องของอนาคต และเป็นสิทธิของเจ้าของที่ดินเดิม แต่ส่วนตัวคงไม่ดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างแน่นอน” นายวรรธนันท์ กล่าว