เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงสั่นสะเทือนตอนกลางของอิตาลีพุ่งเหนือ 250 ศพในวันพฤหัสบดี (25 ส.ค.) โดยหน่วยกู้ภัยยังคงสอดส่องหาร่างไร้วิญญาณท่ามกลางอาฟเตอร์ช็อกที่เขย่าขวัญอย่างไม่หยุด ขณะเดียวกันก็ได้เกิดคำถามขึ้นมาว่าทำไมจำนวนเหยื่อถึงมากมายเช่นนี้ ทั้งที่ภาครัฐทุ่มงบประมาณมหาศาลปรับปรุงที่พักอาศัยในพื้นที่อ่อนไหวตั้งแต่เมื่อครั้งโศกนาฏกรรมธรณีพิโรธที่ลากวีลา ปี 2009 แล้ว
ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีอยู่ถึง 193 รายที่พบในอมาทริซ หนึ่งในเมืองที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด ขณะที่ความหวังพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมในซากหักพังเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ ท่ามกลางคำถามที่มีมากขึ้นว่าทำไมถึงมีเหยื่อมากมายเช่นนี้ในพื้นที่ที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่ประปราย ไม่นานตามหลังเหตุแผ่นดินไหวในเมืองลากวีลา ที่อยู่ใกล้ๆ กันในปี 2009 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนกว่า 300 ศพ
หน่วยงานป้องกันพลเรือน ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานความพยายามกู้ภัย ระบุว่า นอกเหนือจากยอดผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนักพอที่จะนำส่งโรงพยาบาลถึง 365 คน และหลายคนอยู่ในอาการสาหัส
แผ่นดินไหวคราวนั้นอยู่ลงไปทางใต้แค่ราวๆ 50 กิโลเมตร ย้ำให้เห็นว่าภูมิภาคแถบนี้มีความอ่อนแอต่อเหตุการณ์ทางธรณีวิทยามากแค่ไหน แต่กลับพบว่าการเตรียมพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวรอบใหม่เป็นไปอย่างจำกัด
จูเซปเป เซียวา อัยการรัฐในพื้นที่แผ่นดินไหว เผยว่า เขาจะเปิดการสืบสวนว่าต้องมีใครรับผิดชอบต่อภัยพิบัติเลวร้ายนี้หรือไม่
ที่อมาทริซ อาฟเตอร์ช็อกระดับ 4.3 เขย่าหมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายอยู่ก่อนแล้วในวันพฤหัสบดี (25 ส.ค.) กระพือความกังวลว่าอาจพังครืนลงมาอีกระลอกของอาคารต่างๆ อาจส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการกู้ภัย
ปกติแล้วอมาทริซมีประชากรแค่ราวๆ 2,500 คน แต่ช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหว เมืองแห่งนี้แออัดไปด้วยแขกผู้มาเยือนในช่วงพีกสุดของฤดูกาลท่องเที่ยว และซ้ำร้ายภัยพิบัติคราวนี้ยังเกิดขึ้นในตอนเช้ามืดของวันพุธ (24 ส.ค.) ที่ผู้คนต่างกำลังหลับใหลอยู่
รวมแล้วมี 215 คนที่ได้รับความช่วยเหลือออกจากซากหักพังตั้งแต่วันพุธ (24 ส.ค.) แต่ยังไม่มีรายงานพบผู้รอดชีวิตมาตั้งแต่ช่วงค่ำวันเดียวกัน
สภากาชาดเริ่มลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์อย่างเช่นน้ำ และอาหารเข้าช่วยหลือชาวบ้านที่ไร้ที่อยู่อาศัยแล้ว ขณะที่ชาวบ้านหลายร้อยคนตัดสินใจหลับนอนในรถหรือเต็นท์ที่กางอย่างเร่งรีบเนื่องจากหวาดผวาต่ออาฟเตอร์ช็อก
แผ่นดินไหวราว 6.0-6.2 คราวนี้มีศูนย์กลางอยู่ใกล้อมาทริซ และด้วยที่มันมีความตื้นแค่ 4 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนจึงหนักหน่วงอย่างยิ่ง ทั้งนี้ แม้มันเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ แต่พื้นที่แถบนี้มีประวัติเคยเผชิญแผ่นดินไหวรุนแรงมาอย่างยาวนาน
ตามหลังแผ่นดินไหวที่ลากวีลา สำนักงานป้องกันพลเรือนได้รับงบประมาณเกือบ 1,000 ล้านยูโร โดยเงินจำนวนนี้จัดสรรไว้สำหรับปรับปรุงอาคารต่างๆ ในพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตาม พวกนักวิจารณ์บอกว่าการเข้ารับเงินอุดหนุนยังมีน้อยมาก สืบเนื่องจากติดปัญหาด้านเอกสาร
“ที่นี่อยู่ใจกลางเขตแผ่นดินไหว แต่ไม่เคยทำอะไรกันเลย” ดาริโอ นันนี จากสภาสถาปนิกอิตาลีกล่าว “มันไม่เสียเงินมากนักหรอกกับการที่บูรณะอาคารให้เป็นไปตามมาตรฐานแผ่นดินไหว แต่มีอาคารแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ที่ทำแบบนั้น”
นันนีบอกว่า “ผลกระทบของแผ่นดินไหวหนักหน่วงขึ้น เนื่องจากมีการใช้ปูนอย่างกว้างขวางแทนที่จะใช้คานไม้แบบเดิม คานปูนกระแทกกำแพงราวกับเอาค้อนทุบและมันทำให้บ้านพังถล่มลงมาหลายหลังเหลือเกิน”