บุรีรัมย์ - ตัวแทนชาวบ้าน 2 ตำบล อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กว่า 30 คน เดือดร้อนหนัก วอนนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือหลังถูกกล่าวหาบุกรุกที่สาธารณะโคกตาสวด กว่า 2,000 ไร่ พร้อมปักป้ายไล่ออกจากพื้นที่ ทั้งที่เป็นที่ทำกินมาหลายชั่วอายุคน พร้อมหอบหลักฐาน ภทบ.5 และ ส.ค.1 ยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
วันนี้ (12 พ.ย.) ตัวแทนชาวบ้าน 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านหนองยายพิมพ์ โคกศาลา บุตาสุ่ม หนองโจด และบ้านหนองตาไก้ ตำบลหนองยายพิมพ์ และตำบลหนองกง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร่วม 30 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนถูกกล่าวหาบุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์โคกตาสวด นำหลักฐานเอกสารที่ถือครองทั้ง ภทบ.5 ส.ค.1 และหลักฐานการเสียภาษีออกมายืนยันว่า ชาวบ้านไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ตามที่ถูกกล่าวหา
หลังองค์การบริหารส่วนตำบลหนองยายพิมพ์ นำป้ายไปปักหลายจุดไล่ที่ชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน มีทั้งปลูกสร้างที่อยู่อาศัย และทำกินในพื้นที่ดังกล่าวมากกว่า 100 ครัวเรือน โดยอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสาธารณะโคกตาสวด มีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 2,000 ไร่ อีกทั้งยังมีชาวบ้านหลายรายถูกเจ้าหน้าที่จับกุมแจ้งข้อหาบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก
กรณีดังกล่าวชาวบ้านเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มบุคคลใน อบต. เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงผู้นำท้องถิ่น เพราะมีพฤติกรรมเลือกปฏิบัติหลายคน ทั้งผู้ใหญ่ กำนัน ก็มีที่ดินอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่กลับไม่ถูกไล่ที่แต่อย่างใด ชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือชาวบ้าน ว่า การดำเนินการในครั้งนี้มีกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ทั้งนี้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านมีหลักฐานเอกสารสิทธิ ภทบ.5 และ ส.ค.1 เสียภาษีทำกินอย่างถูกต้องมาโดยตลอด เข้ามาอยู่อาศัยทำกินมานานหลายชั่วอายุคน หากตรวจสอบว่าชาวบ้านผิดจริงก็พร้อมที่จะออกจากพื้นที่
นายชำนาญ สกุลทอง อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 118 ม.1 ต.หนองยายพิมพ์ หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกกล่าวหา ยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวทำกินมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย และมีเอกสารสิทธิ ส.ค.1 เสียภาษีทำกินมาโดยตลอด หลัง อบต.นำป้ายมาติดไล่ที่ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่สาธารณะป่าโคกตาสวด
ขอยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ชาวบ้านเข้ามาทำกินนานแล้ว จึงขอความช่วยเหลือและขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบถึงความไม่ชอบมาพากลดังกล่าวด้วย หากชาวบ้านถูกไล่ออกจากพื้นที่ดังกล่าวจะไม่มีที่อยู่อาศัย ที่ทำกินแน่นอน
นางทองศรี กลมเกลียว อายุ 62 ปี เลขที่ 93 หมู่ 3 ต.หนองกง กล่าวว่า ครอบครัวได้อาศัยทำกินมามากกว่า 40 ปีแล้ว แต่กลับถูกกว่าหาว่าบุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์โคกตาสวด จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า ตนและชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือนที่ถูกกล่าวหาบุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณะจริงหรือไม่ การปิดป้ายขับไล่ของ อบต.ถูกต้องหรือไม่