เชียงราย - ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงฯ-จังหวัดฯ เร่งประชาสัมพันธ์คุมเข้มการปล่อยโคมลอยยี่เป็ง ย้ำประกาศเป็นกฎหมายในราชกิจจานุเบกษาเป็นจังหวัดที่ 2 ต่อจากเชียงใหม่แล้ว หลังนักบินเจอกับตัวเอง โคมควันยักษ์โครงเหล็กติดถังแก๊สปิคนิค
วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงราย และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ออกประกาศเรื่องการขอให้งดการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน ฯลฯ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็งภาคเหนือ พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
โดยระบุว่า ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. ขอให้ประชาชนงดการปล่อยโคมลอยและโคมไฟตั้งแต่เวลา 21.00-01.00 น. ส่วนโคมควันขอให้ปล่อยในช่วงเวลา 10.00-12.00 น.ของคืนวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งเป็นคืนลอยกระทง และจะเน้นหนักในพื้นที่ที่อยู่ในเส้นทางการบิน คือ อ.เมือง อ.แม่ลาว อ.พาน อ.เวียงชัย อ.เวียงเชียงุร้ง และ อ.ป่าแดด ซึ่งหากประสงค์จะปล่อยโคมให้แจ้งขออนุญาตอย่างน้อย 7 วัน
นอกจากนี้ยังมีการประกาศขนาดมาตรฐานของโคมชนิดต่างๆ วัสดุที่ใช้ เช่น ไม่ควรใหญ่เกิน 90 ซม. ถึง 1 ลูกบาศก์เมตร ใช้วัสดุธรรมชาติ ฯลฯ
นายวิสูตร คำยอด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เปิดเผยว่า จากการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางหอบังคับการบินแจ้งว่า นักบินเคยพบโคมควันที่มีลักษณะเป็นอันตราย โดยมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ใช้วัสดุที่แข็งแรง โครงสร้างทำด้วยเหล็ก-ลวด และที่สำคัญพบมีการใช้ถังแก๊สขนาดเล็ก หรือถังแก๊สปิคนิค เป็นเชื้อเพลิงทำให้บินได้สูง
เมื่อวิเคราะห์แล้วพบว่าโคมลอยเป็นวัตถุที่มีอันตรายต่อการบิน เป็นผลทำให้นักบินต้องปรับเส้นทางการบินออกไปจากเส้นทางปกติที่เป็นเส้นตรงเพื่อเลี่ยงอันตราย เพราะหากวัตถุอันตรายเข้าถึงเครื่องยนต์ก็จะเป็นอันตรายมาก นอกจากนี้ ในเทศกาลยี่เป็งปีก่อนพบว่าภายในท่าอากาศยานเองก็เคยพบโคมลอย ซึ่งไม่ทราบว่าลอยมาจากไหนตกบริเวณสนามบินราว 10-20 ลูก
นายวิสูตรกล่าวว่า ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการออกประกาศกำหนดวัน และเวลาเรื่องการปล่อยวัตถุต่างๆ ดังกล่าว โดยกรณีของ จ.เชียงราย ได้มีการระบุประกาศดังกล่าวในราชกิจจจานุเบกษา หรือเป็นกฎหมายเรียบร้อยแล้ว เป็นจังหวัดที่ 2 ต่อจาก จ.เชียงใหม่
ตามกฎหมายหากมีการดำเนินคดีถึงที่สุด ผู้ที่ละเมิดก็จะได้รับโทษสูงสุดปรับเป็นเงิน 60,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำต่อไป ทั้งนี้ ในเทศกาลยี่เป็งปี 2559 นี้ถือเป็นปีแรกที่ทางจังหวัดได้มีประกาศดังกล่าวและลงในราชกิจจานุเบกษา
“ตอนนี้ท่าอากาศยานฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลภายในรันเวย์อย่างเข้มงวด เพิ่มการลาดตระเวนจากวันละ 8 รอบ เป็น 16 รอบ และเตรียมการกรณีมีผู้ขออนุญาตปล่อยโคม ด้วยการนำข้อมูลแจ้งต่อสายการบินเพื่อให้นักบินได้รับทราบต่อไป ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ขออนุญาตเข้ามา และตามปกติช่วงหลัง 3 ทุ่มก็มีเครื่องบินของบางสายการบินให้บริการอยู่ แต่เฉพาะช่วงเทศกาลตามวันและเวลาดังกล่าวเขาก็จะเปลี่ยนเวลาการบินเพื่อความปลอดภัยให้” นายวิสูตรกล่าว