xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรจันทบุรี-ฉะเชิงเทรา นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงปรับใช้ในการปลูกพืชจนสำเร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จันทบุรี/ฉะเชิงเทรา - เกษตรกรในพื้นที่ จ.จันทบุรี และฉะเชิงเทรา น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ในการปลูกพืชสวนผสม และการดำเนินชีวิตจนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างสบาย

วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 3 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นของ นายดนัย อิ่มสมบูรณ์ เกษตรกรชาวสวนที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ในการปลูกพืชสวนผสมในเนื้อที่ 5 ไร่ ที่มีทั้งขุดบ่อเลี้ยงปลา สวนทุเรียน กล้วยน้ำว้า กล้วยหอมทอง พริกไทย ส่วนบริเวณโดยรอบบ้านยังปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเอง เช่น ผักชะอม ขมิ้นขาว และปลูกมัลเบอร์รี่ เป็นรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว จนทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีหนี้สินติดตัว

นายดนัย เผยว่า ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างหาที่สุดมิได้ และจะขอทำความดีเจริญรอยตามคำสอน ที่สำคัญในขณะนี้ยังเปิดสวนให้ประชาชน นักเรียน ศึกษา และผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้เรื่องการทำสวนผสม โดยตนจะ เป็นวิทยากรสอนให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

“จากคำสอนของในหลวง เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อได้เข้าไปเรียนรู้ และเข้ารับการอบรมจนสามารถนำมาปรับใช้ในพื้นที่สวนของตัวเองก็พบว่า การขุดสระเลี้ยงปลา และนำน้ำมารดสวนผลไม้ รวมทั้งบริเวณรอบบ้านยังได้ปลูกพืชผักสวนครัวไว้กิน สิ่งเหล่านี้ทำให้ตนประสบความสำเร็จ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายดนัย กล่าว

ผู้ใหญ่บ้านเมืองแปดริ้ว ยึดต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ชาวบ้าน

ขณะที่ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รายงานว่า ได้พบผู้นำชุมชนต้นแบบที่ยึดมั่นการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยังได้นำความรู้จากการศึกษาดูงานจากโครงการพระราชดำริต่างๆ มาใช้ บนพื้นที่เกษตรกรรมของตนเอง จนเป็นแบบอย่างให้แก่ลูกบ้านได้เห็นถึงความสำเร็จในการใช้ชีวิต ด้วยความเป็นอยู่อย่างพออยู่พอกิน

โดย นายสันต์ เกษมสุข อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลบางเตย อำเภอเมือง ฉะเชิงเทรา บอกว่า ได้ใช้ชีวิตตามรอยพระบาท ของพระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการนำที่ดิน จำนวน 10 ไร่ มาใช้ในการปลูกพืชผักสวนครัว พร้อมทั้งพืชสมุนไพร ตลอดจนการนำสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่น และหาได้ง่าย รวมถึงเศษสิ่งของเหลือใช้มาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าสูงสุด จนสามารถแนะนำชาวบ้านให้รู้จักการใช้พืช และสมุนไพรรอบตัวมาใช้ดูแลรักษาโรค ตามตำรับยาโบราณพื้นบ้าน ขณะเดียวกัน ยังได้แนะนำชาวบ้านให้รู้จักการนำรากผักชี ต้นหอม ที่ใช้แล้วกลับมาปลูกใหม่ในดินเดิม เพื่อให้ได้ต้นผักชีต้นใหม่ที่นำไปใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารในครัวเรือนได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อหา

นอกจากนี้ ยังได้ดัดแปลงสิ่งของเหลือใช้ เช่น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร มาใช้เป็นถังดูดน้ำแบบกาลักน้ำ โดยไม่ต้องใช้พลังงานสิ้นเปลืองจากภายนอกในการสูบน้ำรดต้นไม้ การใช้เครื่องสูบน้ำแบบจักรยานปั่นเพื่อออกกำลังกาย และถอดออกได้ การนำเศษกะลามะพร้าวที่ชาวบ้านเหลือใช้จากการทำขนม มาเป็นถ่านไฟที่ใช้ในการหุงต้ม และการหมักก๊าซชีวภาพจากผักตบชวา ใช้ในครัวเรือน

“ต้นไม้ที่ปลูกในสวนทุกต้นล้วนเป็นต้นไม้ที่สามารถใช้ในการบริโภคได้ ทั้งยังที่มีคุณค่าทางอาหาร และคุณค่าทางสมุนไพรในการรักษาโรค ซึ่งการนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรม และศึกษาเรียนรู้จากโครงการพระราชดำริ วันนี้สามารถเป็นแบบอย่างให้ชาวบ้านได้เป็นอย่างดี”





กำลังโหลดความคิดเห็น