xs
xsm
sm
md
lg

สดร.เปิดเทศกาลชมดาวรับลมหนาวชวนดูจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปีคืนวันลอยกระทง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ชวนร่วมกิจกรรม “เปิดฟ้า...ตามหาดาว” ชม “Super Full Moon” ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี ในคืนวันลอยกระทง 14 พ.ย. 59 นี้ โดยที่จะเห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าปกติประมาณ 14% และส่องแสงสว่างกว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณ 30% พร้อมชวนร่วมกิจกรรมชมดาวตลอดช่วงลมหนาว

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. เปิดเผยว่า สดร.กำหนดจัดกิจกรรมดาราศาสตร์สำหรับประชาชนทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงมีนาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวเหมาะแก่การดูดาวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพท้องฟ้าส่วนใหญ่ปลอดจากเมฆฝน สามารถมองเห็นวัตถุท้องฟ้าต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

สำหรับ 3 กิจกรรมหลักที่จัดเป็นประจำทุกปี ได้แก่ “เปิดฟ้า...ตามหาดาว” (NARIT Star Party), “เปิดบ้านหอดูดาวแห่งชาติ” (TNO Open house) และ “ค่ายเยาวชนคนดูดาวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม” (NARIT Youth Camp) โดยจะมีกิจกรรมชวนมาดูดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดต่างๆ พร้อมแนะนำวิธีการดูดาวเบื้องต้น การสังเกตวัตถุท้องฟ้า สอนใช้แผนที่ดาว และฟังเรื่องราวความรู้ดาราศาสตร์อีกมากมาย

กิจกรรม “เปิดฟ้า...ตามหาดาว” (NARIT Star Party) ประจำปี 2559 กำหนดจัดขึ้น 6 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย. 59 ที่ลานตรงข้ามอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่, ครั้งที่ 2 วันจันทร์ที่ 14 พ.ย. 59 ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, ครั้งที่ 3 วันเสาร์ที่ 14 ม.ค. 60 ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, ครั้งที่ 4 วันศุกร์ที่ 3 ก.พ. 60 ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี, ครั้งที่ 5 วันเสาร์ที่ 25 ก.พ. 60 ที่หอดูดาวสิรินธร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และครั้งที่ 6 วันเสาร์ที่ 4 มี.ค. 60 ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่

ทั้งนี้ ไฮไลต์สำคัญอย่างหนึ่งของการจัดกิจกรรม “เปิดฟ้า...ตามหาดาว” ในปีนี้อยู่ที่การจัดกิจกรรมครั้งที่ 2 ในวันที่ 14 พ.ย. 59 ที่ตรงกับคืนวันลอยกระทง ซึ่งจะมีปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี” หรือ “Super Full Moon” ที่จะเกิดขึ้นครั้งหนึ่งทุกรอบประมาณ 13 เดือน โดยครั้งนี้จะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่กว่าปกติประมาณ 14% และส่องแสงสว่างกว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณ 30% ซึ่ง สดร.มีการจัดอุปกรณ์และกล้องโทรทรรศน์หลายรูปแบบให้ผู้สนใจชมดวงจันทร์และวัตถุท้องฟ้า

พร้อมทั้งเชิญชวนพสกนิกรชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนแสดงความอาลัยใต้แสงจันทร์ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในเวลา 19.09 น.ด้วย

ส่วนกิจกรรม “เปิดบ้านหอดูดาวแห่งชาติ” (TNO Open house) กำหนดจัดขึ้น 2 ครั้ง ในวันที่ 21 ม.ค. 60 และวันที่ 18 ก.พ. 60 รับจำนวนจำกัดครั้งละ 120 คน โดยกิจกรรมนี้นอกจากจะเป็นการมาดูดาวแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่และทันสมัยของกล้องโทรทรรศน์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกระจก 2.4 เมตร ส่องมองวัตถุท้องฟ้าผ่านช่องมองภาพ

พร้อมทั้งเยี่ยมชมการทำงานของนักดาราศาสตร์ ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ หอดูดาวแห่งชาติ ที่เป็นที่สุดของอาเซียนและเป็นจุดมีทัศนวิสัยของท้องฟ้าดีที่สุดในประเทศไทย

ขณะที่ “ค่ายเยาวชนคนดูดาวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม” (NARIT Youth Camp) ในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 ซึ่งเป็นกิจกรรมค่ายดาราศาสตร์สำหรับเยาวชนอายุระหว่าง 15-19 ปี โดยกำหนดจัด 2 ครั้ง ในระหว่างวันที่ 7-9 ธ.ค. 59 และ 3-5 เม.ย. 60 ที่ศูนย์บริการสารสนเทศและฝึกอบรมทางดาราศาสตร์ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า แม้ว่ากิจกรรมหลักๆ จะจัดขึ้นภายในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ในส่วนหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ ภูมิภาค ซึ่งขณะนี้เปิดบริการแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา ปกติจะจัดกิจกรรมดูดาวบริการประชาชนทุกคืนวันเสาร์ (NARIT Public Night) ด้วยเช่นกัน โดยเปิดชมท้องฟ้าจำลองเวลา 17.00 น. และกิจกรรมดูดาวเวลา 18.00-22.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 0-4421-6254 (นครราชสีมา) และ 08-4088-2264 (ฉะชิงเทรา)

จึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่และผู้สนใจร่วมสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของท้องฟ้ายามค่ำคืน มาร่วมสนุก มีความสุขไปกับการดูดาวและอีกหลากหลายกิจกรรมทางดาราศาสตร์ ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ทุกๆ กิจกรรมสามารถเข้าร่วมได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

เพียงหวังว่ากิจกรรมดังกล่าวจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยโดยเฉพาะเยาวชนไทยหันมาสนใจวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ ซึ่งไม่ใช่แค่การให้ความรู้อย่างเดียว แต่ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากเรียนรู้และใฝ่รู้ที่จะต่อยอดไปสู่ความสนใจใฝ่รู้ในวิทยาศาสตร์สาขาอื่นๆ ได้ด้วย และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.narit.or.th หรือ www.facebook.com/NARITpage สอบถามโทร. 0-5322-5569 ต่อ 305


กำลังโหลดความคิดเห็น