อุดรธานี - ตำรวจอุดรธานี สร้างชื่อ วางแผนสกัดลักลอบขนยาบ้าเข้าพื้นที่ตอนใน ได้กว่า 638,000 เม็ด หลังได้รับรายงานมียาบ้าลอบขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่าน จ.บึงกาฬ และอุดรธานี วางแผนสกัดจับรวบผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมหาศาล สารภาพได้ค่าจ้าง 5 แสนบาท
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้แทนทหาร และฝ่ายปกครอง จังหวัดอุดรธานี ได้ร่วมกันแถลงผลการดำเนินการจับกุม และตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 638,000 เม็ด
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีเครือข่ายยาเสพติดลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดบึงกาฬ เข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง และผ่านจังหวัดอุดรธานี โดยใช้รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด สีทอง หมายเลขทะเบียน กท 5637 อุดรธานี และรถยนต์กระบะนิสสันนาวาร่า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กก 1600 บึงกาฬ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุม โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางที่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะใช้เดินทางโดยให้สายลับขับรถตามโดยตลอด
ขณะรถต้องสงสัยขับถึงบริเวณสี่แยกรอบเมืองอุดรธานี-หนองคาย และรถติดไฟแดง เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวนมาก ทราบชื่อผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการขนยาบ้า ประกอบด้วย นายปัญญา เก้าสร้อย อายุ 53 ปี ชาวอุดรธานี และนายมนัชชัย วงษ์เสียงดัง อายุ 50 ปี ชาวบึงกาฬ เบื้องต้น รับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดนำมาจากอำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ โดยนำเข้ามาจาก สปป.ลาว และจะนำยาบ้าไปให้แก่นายทุนที่ภาคกลาง โดยนัดหมายไปส่งที่ริมทางอำเภอวังน้อย จังหวัดสระบุรี หากรับส่งเรียบร้อยจะได้รับค่าจ้าง 5 แสนบาท แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน
จากการสอบสวน นายปัญญา เก้าสร้อย ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพเป็นผู้รับเหมา แต่เศรษฐกิจไม่ดีไม่มีงาน จึงมีเพื่อนชักชวนมาส่งยาบ้า และไปรับยาบ้าจากตัวเมือง จ.หนองคาย จากคนลาวไม่ทราบชื่อ มีเพียงติดต่อกันทางโทรศัพท์ ส่วนตนเองมีหน้าที่เพียงขับรถไปส่งยาบ้าเท่านั้น โดยจะมีรถอีกคันคอยขับนำหน้าเพื่อเบิกทาง และแจ้งข่าวหากมีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
