อุดรธานี - ตำรวจ สภ.หนองวัวซอ สกัดจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูง ลำเลียงมากับรถตู้ 11 ท่อน มุ่งส่งข้ามน้ำโขง จังหวัดบึงกาฬ เผยมูลค่าฝั่งลาวสูงถึง 2 ล้านบาท ขณะที่ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับอ้างเป็น ผกก.กองปราบฯ แต่ตำรวจไม่สน แจ้งข้อหามีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่ สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมพู รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ธนานันท์วิทย์ ศรีบุญเรือง ผกก.สภ.หนองวัวซอ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองวัวซอ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการลักลอบขนส่งไม้พะยูง ได้ผู้ต้องหา 2 ราย
ประกอบด้วย นายสายันต์ หมุดทอง อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 119 หมู่ 1 ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และนายอรรคพันธ์ ศักดิ์ศรีทีปกร อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 92/22 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ พร้อมของกลางไม้พะยูง 11 ท่อน รถตู้ยี่ห้อนิสสัน สีขาวทะเบียน นค 7916 นครราชสีมา และรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ค 0202 กรุงเทพฯ (ปลอม) กก 7621 บึงกาฬ
พ.ต.อ.สุรินทร์ แถลงว่า ทางชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีการลักลอบขนไม้พะยูงจากเขต อ.หนองวัวซอ โดยใช้รถตู้ในการบรรทุกลำเลียงไม้พะยูงในช่วงกลางคืน เพื่อไปส่งให้แก่ “ป๋าจวน” นายทุนชาวลาวที่ สปป.ลาว จากการสืบทราบว่า ป๋าจวน ชาวลาวได้เดินทางเข้าอุดรธานีเพื่อดูไม้พะยูงชุดนี้ และได้จ่ายเงินแล้ว จากนั้นได้ว่าจ้างให้ทำการขนไม้ไปส่งที่ริมฝั่งน้ำโขง จังหวัดบึงกาฬ
จนกระทั่งมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนนำกำลังดักซุ่มตามเส้นทางบ้านหมากหญ้า ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ โดยจะผ่านเข้าไปในเขตเมืองอุดรธานี ที่คาดว่าขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงจะใช้ลำเลียง จากนั้นเมื่อถึงเวลาที่สายแจ้งมา ได้มีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ขับนำหน้า และรถยนต์ตู้วิ่งผ่านมาตามเส้นทาง ซึ่งตรงกับที่ได้รับรายงาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไล่สกัดจับ และสามารถจับกุมได้
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ทั้ง 2 คัน ซึ่งสภาพในรถตู้ถูกดัดแปลงเพื่อขนสิ่งของ พบไม้พะยูงท่อน จำนวน 11 ท่อน ส่วนรถฟอร์จูนเนอร์ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย คาดว่าจะใช้เป็นรถดูต้นทาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม และควบคุมตัวมาที่ สภ.หนองวัวซอ
นายสายันต์ คนขับรถตู้รับสารภาพว่า ตนรับจ้างให้ขับรถขนไม้พะยูงจากพื้นที่รอยต่อจังหวัดอุดรธานี-หนองบัวลำภู แล้วขับส่งไปยังจังหวัดบึงกาฬ ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 หมื่นบาท ซึ่งตนได้ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนนายอรรคพันธ์ หลังจากถูกจับได้อ้างตัวว่าเป็น ผกก.กองปราบ โดยบอกว่าตนรับซื้อไม้หอมในพื้นที่ 3 จังหวัดอุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ และแม้จะเป็น ผกก.กองปราบ จริงก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
พ.ต.อ.สุรินทร์ เปิดเผยอีกว่า จากการสืบทราบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขบวนการค้าไม้ชุดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้ที่เคยถูกจับกุมในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้มีมูลค่า 5 แสนบาท แต่ถ้าส่งออกไป สปป.ลาว จะมีมูลค่าถึง 2 ล้านบาท
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมมีไม้หวงห้ามในครอบครองเกินกว่า 0.2 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต และลักลอบทำไม้ในเขตป่าสงวนไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป