กาฬสินธุ์ - ชุดสืบสวน สภ.ยางตลาด ดักจับคู่กิ๊กเครือข่ายแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ขณะลักลอบขนยาบ้า 12,000 เม็ด ไปส่งลูกค้าหน้าปั๊มน้ำมัน สารภาพรับจ้างขน 5,000 บาท เผยประวัติเคยติดคุกคดียาเสพติดมาแล้ว 1 ครั้ง
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ห้องประชุมชัยสุนทรตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง พ.ต.อ.ณัฐพล มิ่งพันธ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี พ.ต.อ.มนตรี จรัลพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ภัทรพล หาญทนงค์ ผกก.สภ.ยางตลาด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายวิเศษ วินมูล อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 51 ม.12 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และนางชนพร อนุมาน อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 39 ม.7 ต.ดอนจาน อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 12,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ-แดง ทะเบียน ขขจ 285 กาฬสินธุ์
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 10.30 น.วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ยางตลาด ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบขนยาบ้าที่ฝั่งตรงข้ามบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.อ.ยางตลาด จึงจัดกำลัง และวางแผนดักซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆ
กระทั่งพบผู้ต้องสงสัย 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดที่บริเวณหลักกิโลหน้าปั๊มด้วยท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น แต่ทั้งสองพยายามขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี แต่ก็หนีไม่พ้น
จากการตรวจสอบพบ นางชนพร อนุมาน เป็นผู้ขับขี่ และมีนายวิเศษ วินมูล นั่งซ้อนท้าย ซึ่งตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 60 มัด หรือ 12,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อของนายวิเศษ สวมใส่อยู่ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
นายวิเศษ รับสารภาพว่า ตนกับ นางชนพร ไม่ใช่สามีภรรยากัน เพียงแต่เป็นกิ๊กกันเท่านั้น เพราะตนเคยมีแฟนหลายคน ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้รับการว่าจ้างจากชายคนหนึ่งในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เป็นเงิน 5,000 บาท ให้มารับยาบ้า จำนวน 5 มัด หรือ 1,000 เม็ด ที่บริเวณเสาหลักกิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท.อ.ยางตลาด เพื่อนำไปส่งให้แก่ลูกค้า แต่พอมารับยาบ้าจริงกลับพบว่า ยาบ้านั้นมีจำนวนมากจึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายวิเศษ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจับ และถูกดำเนินคดียาบ้ามาแล้ว 1 ครั้ง ถูกจำคุก 11 ปี พ้นโทษมาได้ประมาณ 5 ปี กระทั่งมาถูกตำรวจตามจับได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลตามจับตัวเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการต่อไป