จันทบุรี-ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ประชาชนพาบุตรหลานมาเข้าชมศึกษาธรรมชาติ และป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนและสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา กันเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ศูนย์การศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พบว่า มีพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานเข้าชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน ที่มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดประมาณ 4,000 ไร่ ซึ่งเป็นไปตามพระราชประสงค์ฯ ในการฟื้นฟู และจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ พื้นที่โดยรอบของป่าชายเลน นักท่องเที่ยวสามารถใช้สะพานเดินศึกษาธรรมชาติและป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนในการเที่ยวชมตามจุดต่างๆ พร้อมกับข้อมูลความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนที่ติดอยู่ตรงศาลาเล็กๆ ให้ได้ทราบอยู่เป็นระยะ เริ่มต้นเส้นทางกันบริเวณศาลาที่ 1 กำเนิดอ่าวคุ้งกระเบน จุดนี้จะอธิบายลักษณะการกำเนิดอ่าวคุ้งกระเบน และป่าชายเลนตามทฤษฎีธรณีสัณฐานว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพื่อนำสิ่งที่ได้มาใช้ประกอบการเที่ยวชมยังจุดอื่นๆ ต่อไป
เมื่อเดินผ่านจากจุดแรกมาแล้ว ตลอดสองข้างทางนั้นร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณที่ขึ้นอย่างหนาแน่น ประกอบด้วย ต้นโกงกาง ต้นแสม ลำพู พร้อมกันนั้น ได้มีจุดหอดูนก เพื่อให้ประชาชนได้ขึ้นไปถ่ายรูปทางทะเล และป่าโกงกาง และยังสามารถเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ที่เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำมีทั้งประเภทสวยงาม และสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ พบตามแนวปะการัง และโขดหินตลอดแนวชายหาดแหลมเสด็จ ชายหาดเจ้าหลาว เช่น ปลากะพงขาว ปลากะรัง ปลากะพงแดง ปลาสินสมุทร ปลาการ์ตูน และปลากระเบน เป็นต้น
ด้าน น.ส.จิรภรณ์ ชูวงษ์ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 78/78 เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครอง และน้องสาว เพื่อเข้าชมโครงการพระราชดำริ รู้สึกดีใจมากที่ได้เข้ามาเดินชม ทำให้ตนเอง และน้องสาวได้รับความรู้เรื่องป่าชายเลน การดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ อีกทั้งได้รู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวงที่มีต่อประชาชนในพื้นที่ การปรับปรุงพื้นที่ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมกลับมางดงามอีกครั้ง ตนเองจะจดจำเรื่องราวของสถานที่ต่างๆ สิ่งดีๆ ไปเล่าต่อให้เพื่อนๆ ฟัง และจะนำปรัชญาเศรฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป