ศูนย์ข่าวศรีราชา - “ลุงตู่” เผยพร้อมยกระดับภูมิภาคตะวันออกให้เป็นพื้นที่ฐานเศรษฐกิจหลักของประเทศ ขณะที่ กรอ.ส่วนกลาง และกรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก เห็นชอบขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อการยกระดับการผลิต แปรรูปผลไม้ภาค ตอ. เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าผลไม้ และผลิตภัณฑ์คุณภาพมาตรฐานระดับสากล พร้อมเห็นชอบเร่งรัดโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 36 ตอนชลบุรี (แยกกระทิงลาย)-บรรจบทางหลวงหมายเลข 3 (ระยอง)
วันนี้ (12 ต.ค. ) ที่ศาลาประชาคมอ่าวอุดม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมพบปะประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี โดยมี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และประชาชนให้การต้อนรับ
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวรายงานว่า จังหวัดชลบุรีมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 3,300,000 คน แบ่งเป็นประชากรตามทะเบียนราษฎรประมาณ 1,300,000 คน และประชากรแฝงอีกกว่า 2 ล้านคน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีฐานเศรษฐกิจสูง และเป็นประตูสู่เศรษฐกิจโลก จะเห็นได้จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ปี 2557 ของจังหวัดชลบุรี ที่มีมูลค่า 430,000 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ในปี 2558 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 130,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10 ของรายได้ดังกล่าว ซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อจังหวัดชลบุรีในการเป็นฐานพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก จึงกำหนดให้จังหวัดชลบุรี เป็น 1 ใน 3 จังหวัด ที่เป็นระเบียงพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor; EEC) ที่จะสร้างการเจริญเติบโตให้จังหวัดชลบุรี และภูมิภาคตะวันออกอย่างมหาศาลอีกด้วย
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อพี่น้องประชาชน ชาวชลบุรี ว่า รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศในปี 2557 ประเทศไทยมีปัญหาสะสมมานาน ทั้งในด้านการขาดแผนพัฒนาชาติในระยะยาวมาอย่างต่อเนื่องในกรอบของการบริหารราชการแผ่นดิน ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย
โดยที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งนานาประเทศขาดความเข้าใจ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้เข้ามาแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชน และประเทศชาติมีเสถียรภาพ มีธรรมาภิบาล มีความสามัคคี ปรองดอง เศรษฐกิจเจริญเติบโต ความเจริญกระจายตัวทุกภูมิภาค ประชากรทุกกลุ่มมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศักดิ์ศรี และโอกาสทางสังคมอย่างเท่าเทียมกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง มีจุดแข็งที่สามารถดึงการค้าการลงทุนสู่จังหวัดได้ มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สำคัญ การเป็นที่ตั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ การเป็นศูนย์กลางทางค้า และมีท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางคมนาคม การนำเข้าและส่งออกทางทะเลที่สำคัญ รวมทั้งเส้นทางเชื่อมโยงการขนส่งไปสู่ภูมิภาคต่างๆ โดยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการด้านต่างๆ เพื่อรองรับระบบ Logistics ซึ่งจะช่วยให้การบริการทันสมัย รวดเร็ว และประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพ และความพร้อมในการเป็นประตูการค้าสู่ประชาคมอาเซียน
พร้อมผลักดันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor - EEC) เพื่อทำให้ไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค เป็น Gateway ที่แท้จริงสู่ CLMVT โดยต่อยอด Eastern Seaboard เพื่อสร้างฐานด้านเศรษฐกิจต่อไปยังอนาคต ควบคู่ไปกับการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน โดยการเชื่อมกรุงเทพฯ แหลมฉบัง มาบตาพุด และระยอง ทั้งการคมนาคมทางถนน สนามบิน และท่าเรือ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมทั้งเก่า และใหม่ในบริเวณดังกล่าว และเป็นจุดกระจายสินค้าไปสู่ประเทศอาเซียน
สำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อม และความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงมลพิษทางอากาศ และทางน้ำ ตลอดจนการทิ้งขยะพิษในที่สาธารณะ เพราะมีการนำทรัพยากรไปใช้ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคการท่องเที่ยว และภาคเกษตรกรรม จนทำให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน ดังนั้น ต้องขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และขอความร่วมมือในแนวทางประชารัฐเพื่อดูแลชายฝั่งให้มีความสมดุลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นในช่วงประชุม กรอ.ส่วนกลาง และ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ชั้น 4 จังหวัดชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมหารือระหว่างคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก (จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด)
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าระเบียงเศรษฐกิจของภาคตะวันออก Eastern Economic Corridor : EEC ซึ่งเป็นโครงการที่สำคัญ และรัฐบาลพยายามผลักดันอยู่ในขณะนี้ ถือเป็นจุดขายที่สำคัญเพราะนักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก ถ้ามีการผลักดันให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว จะทำให้กลายเป็นแหล่งลงทุนที่สำคัญ จึงขอให้ภาคอุตสาหกรรมร่วมมือกับรัฐบาลขับเคลื่อนผลักดันให้โครงการฯ เกิดขึ้นโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นชอบการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อการยกระดับการผลิตการแปรรูปผลไม้ภาคตะวันออกเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าผลไม้และผลิตภัณฑ์คุณภาพมาตรฐานในระดับสากล และเห็นชอบให้ยกระดับการจัดงานมหกรรมผลไม้ภาคตะวันออกเป็นงานระดับประเทศ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนงบประมาณในการจัดงาน พร้อมกับเห็นชอบให้เร่งรัดโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 36 ตอนชลบุรี (แยกกระทิงลาย)-บรรจบทางหลวงหมายเลข 3 (ระยอง) ระยะทาง 41 กิโลเมตร พร้อมกับเร่งรัดโครงการก่อสร้างทางหลวงในพื้นที่เส้นทางต่างๆ อย่างเป็นระบบต่อไป