ชัยนาท - เทศบาลตำบลสรรพยา จังหวัดชัยนาท ระดมเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกจากตลาดสรรพยา หลังน้ำผุดใต้พนังกั้นน้ำเข้าพื้นที่ตลาดมีปริมาณมากขึ้น ขณะที่ชลประทานยังตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือนาข้าว 28,000 ไร่ ให้รอดตาย
วันนี้ (12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ว่า วันนี้น้ำระบายท้ายเขื่อนมีปริมาณ 2,297 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท น้ำทรงตัวอยู่ที่ 15.36 เมตร (รทก.) ซึ่งแม้ระดับน้ำท้ายเขื่อนจะทรงตัว แต่ยังมีปริมาณมาก และทำให้น้ำที่ผุดใต้พนังกั้นน้ำเข้าไปในบริเวณตลาดสรรพยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายอดิศักดิ์ ชัยณรงค์ชัย ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลสรรพยา เปิดเผยว่า ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท เข้าไปติดตั้งบริเวณพนังกั้นน้ำหน้าตลาดสรรพยา เพิ่มอีก 1 เครื่อง จากเดิมที่มีเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว 3 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าขนาด 0.75 คิว 1 เครื่อง เพื่อระดมสูบน้ำที่ผุดลอดใต้พนังกั้นน้ำ โดยจะเดินเครื่องสูบน้ำสลับกันทุก 3 ชั่วโมง และสูบน้ำออกตลอด 24 ชั่วโมง
รวมทั้งเสริมกระสอบทรายอุดท่อระบายน้ำตลอดแนวตลิ่งตั้งแต่ หมู่ 3 จนถึงหมู่ 4 ต.สรรพยา ให้แน่นขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อเข้าท่วมตลาดสรรพยา และบ้านเรือนประชาชน เพราะขณะนี้ระดับน้ำเจ้าพระยายังสูง และมีแรงดันมากยังไม่สามารถลงไปทำการซ่อมแซมจุดที่น้ำผุดใต้พนังได้
นายวิชัย พาตา ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบรมธาตุ เปิดเผยผลการสูบน้ำช่วยเหลือนาข้าวในพื้นที่ อ.สรรพยา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท และ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พื้นที่ประมาณ 28,000 ไร่ ที่ถูกน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนักเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในทุ่งนาได้ลดลงมากแล้ว จากการที่กรมชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำ จำนวน 19 เครื่อง ไปช่วยสูบน้ำจากคลองบางสารวัตร คลองบางเสวย และคลองบางบุ่ง ลงคลองชลประทาน 1 ซ้าย บรมธาตุ เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพราะมีระดับสูงกว่า ซึ่งจากการสูบน้ำติดต่อกันวันละ 22 ชั่วโมง ทำให้น้ำลดลงจากนาข้าวไปมาก คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีกจะสามารถสูบน้ำท่วมนาข้าวออกหมดภายใน 1 สัปดาห์