บุรีรัมย์ - “ตาแพน” วัย 72 ปี ชาวบุรีรัมย์ ที่ทำเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการที่เก็บสะสมไว้ก้อนสุดท้ายของชีวิต 1.5 หมื่นบาทหล่นหาย ประกาศปิดบัญชีรับบริจาคแล้ว หลังมียอดเงินบริจาคล่าสุดกว่า 1.4 ล้านบาท เผยเพียงพอต่อการซ่อมแซมบ้าน เลี้ยงชีพในบั้นปลายชีวิต ดูแลหลานพิการ แต่ผู้มีจิตศรัทธากลับนำเงินและสิ่งของไปมอบถึงบ้าน
วันนี้ (11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคุณตาแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี ชาว ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ทำกระเป๋าสตางค์มีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาท ซึ่งเก็บสะสมจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตนเอง ภรรยา รวมถึงเบี้ยคนพิการของหลานสาว เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายของชีวิตหล่นหาย ขณะพา ด.ญ.อริสา หลานสาวพิการวัย 6 ขวบ ไปทำเรื่องต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุดได้ประกาศปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือแล้ว หลังมียอดเงินบริจาคจากผู้ใจบุญโอนเข้าบัญชีทั่วประเทศจำนวน 1,422,226 บาท
คุณตาแพนบอกว่า ยอดเงินจำนวนดังกล่าวเพียงพอต่อการซ่อมแซมบ้านที่ชำรุดผุพัง เลี้ยงตัวเอง และภรรยาที่แก่ชราในบั้นปลายชีวิต รวมถึงเลี้ยงดูหลานสาวพิการแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ปฏิเสธการช่วยเหลือ แต่อยากให้แบ่งปันความช่วยเหลือให้คนอื่นที่ยากจน และขาดโอกาสเหมือนกับตนเองอีกหลายๆ คนบ้าง จึงได้ตัดสินใจปิดบัญชีรับบริจาคแล้วเปิดบัญชีใหม่ร่วมกับนางเสงี่ยม ภรรยา เพื่อเบิกเงินที่ได้รับบริจาคร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม แม้คุณตาแพนประกาศปิดบัญชีรับบริจาคแล้ว แต่ยังมีผู้มีจิตศรัทธาทั้งใน จ.บุรีรัมย์ เช่น อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ นักกีฬาแข่งรถที่เดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี ยังเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเงิน สิ่งของช่วยเหลือคุณตาแพนถึงที่บ้านหลังทราบเรื่องราวของคุณตา
คุณตาแพน แผ้วพลสง ได้กล่าวขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของผู้ใจบุญและมีจิตศรัทธาทุกคนที่บริจาคช่วยเหลือ ยืนยันว่าจะใช้เงินที่ได้รับบริจาคอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่ต้องปิดบัญชีรับบริจาคเพราะคิดว่าเงินจำนวนดังกล่าว เพียงพอแล้วในการดำเนินชีวิต ซ่อมแซมบ้านตามที่ตั้งใจไว้ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากผู้มีจิตศรัทธาทุกคนไม่รู้จะทำอย่างไร โดยตั้งใจว่าจะเริ่มซ่อมแซมบ้านช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้เพื่อให้เสร็จทันก่อนเข้าหน้าหนาวเพราะเป็นห่วงหลานสาวที่พิการ
