xs
xsm
sm
md
lg

“ตาแพน” บุรีรัมย์เตรียมนำเงินซ่อมบ้านผุพังตามฝัน ยันยึดอาชีพทำนา-สานสุ่มขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตาแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี ชาวบุรีรัมย์ เตรียมนำเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือเกือบ1.3 ล้านบาท ซ่อมแซมบ้านที่ผุพังตามฝัน พร้อมชำระหนี้ ที่เหลือเก็บไว้เลี้ยงครอบครัวและยังยึดอาชีพทำนา สานสุ่มขาย วันนี้ ( 10 ต.ค.)
บุรีรัมย์ - คืบหน้า “ตาแพน” วัย 72 ปี ชาวบุรีรัมย์ ทำเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการที่เก็บสะสมไว้ก้อนสุดท้ายของชีวิต1.5 หมื่นหล่นหาย เตรียมนำเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือเกือบ 1.3 ล้าน ซ่อมแซมบ้านที่ผุพังตามฝัน พร้อมชำระหนี้ ที่เหลือเก็บไว้เลี้ยงตัวภรรยาและหลานพิการและใช้ยามเจ็บป่วย ฉุกเฉิน พร้อมยันยังยึดอาชีพทำนา สานสุ่มขาย ทั้งตั้งใจทำบุญทอดผ้าป่าส่งผลบุญตอบแทนผู้มีจิตศรัทธา

วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานตามติดชีวิตของตาแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี ชาว ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ทำกระเป๋าสตางค์มีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาท เงินสะสมจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตนเอง ภรรยารวมถึงเบี้ยคนพิการของหลานสาว และเงินลูกชายส่งมาเป็นค่าเล่าเรียน ถือเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายของชีวิตหล่นหาย ขณะพา ด.ญ.อริสา หรือน้องแพม หลานสาวพิการวัย 6 ขวบไปทำเรื่องต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์

ล่าสุดหลังมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือรวมเกือบ 1,300,000 บาท คุณตาแพนเตรียมนำเงินที่ได้รับบริจาคไปซื้อวัสดุอุปกรณ์มาซ่อมแซมบ้านซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรมผุพังตามที่ตั้งใจไว้ โดยคาดว่าจะทำการเปลี่ยนหลังคาที่เป็นรูรั่ว ฝาบ้าง ปูพื้น และห้องน้ำ ใช้เงินประมาณ 400,000 บาท พร้อมทั้งชำระหนี้ ธ.ก.ส. ที่กู้ยืมมาลงทุน 15,000 บาท หนี้กองทุนหมู่บ้าน 20,000 บาท รวมทั้งหนี้ที่ยืมน้องชายมาใช้จ่ายในครอบครัวอีก 37,000 บาท อีกทั้งตั้งใจว่าจะนำเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญทอดผ้าป่าให้แก่วัดในหมู่บ้านเพื่อส่งผลกุศลจากการทำบุญในครั้งตอบแทนแก่ผู้มีจิตศรัทธาทุกคนที่มีน้ำใจบริจาคเงินช่วยเหลือมีแต่ความสุข ความเจริญ ประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนเงินที่เหลือจะเก็บไว้เลี้ยงตัวเองภรรยาในบั้นปลายชีวิต รวมถึงเก็บไว้เลี้ยงหลานสาวพิการด้วย

คุณตาแพนบอกอีกว่า รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของผู้มีจิตศรัทธาทุกคนที่บริจาคช่วยเหลือ ยืนยันว่าจะใช้เงินที่ได้รับบริจาคให้เกิดประโยชน์แก่ครอบครัวให้เป็นไปตามที่ผู้ใจบุญตั้งใจช่วยเหลือ และจะใช้อย่างประหยัดที่สุด ทั้งยังยืนยันว่าแม้จะได้รับเงินบริจาคจำนวนมากแล้วยังจะยึดอาชีพทำนา สานสุ่มขาย ออกไปจับปู ปลา และใช้ชีวิตแบบพอเพียงเหมือนเดิม เพื่อจะได้เก็บเงินไว้ใช้ยามเจ็บป่วย หรือจำเป็นฉุกเฉิน






กำลังโหลดความคิดเห็น