บุรีรัมย์- ธารน้ำใจหลั่งไหลไม่หยุด! ล่าสุดยอดเงินบริจาคช่วย “ตาแพน” บุรีรัมย์ วัย 72 ปี ทำเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการที่เก็บสะสมไว้ก้อนสุดท้าย 1.5 หมื่นบาทหล่นหาย เฉียด 1.3 ล้านแล้ว เจ้าตัวเผยเพียงพอดำเนินชีวิตและซ่อมแซมบ้านแล้ว ขอบคุณผู้ใจบุญทุกความช่วยเหลือ ขณะ ธ.ก.ส.และ ตร.ช่วยกลั่นกรองดูแลเรื่องเบิกจ่าย ป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสหลอกลวง
วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใจบุญและผู้มีจิตศรัทธายังคงบริจาคช่วยเหลือคุณตาแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.8 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทำกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาทที่คุณตาเก็บสะสมจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตนเอง ภรรยา รวมถึงเบี้ยคนพิการของหลานสาว และเงินที่ลูกชายส่งมาเป็นค่าเล่าเรียน พร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองและภรรยาหล่นหายโดยไม่รู้ตัว ขณะพา ด.ญ.อริสา หรือน้องแพม วัย 6 ขวบ หลานสาวพิการไปทำเรื่องต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ โดยล่าสุดมียอดเงินบริจาคแล้วจำนวน 1,257,000 บาทแล้ว
ขณะที่คุณตาแพนออกมาเปิดเผยว่า ยอดเงินจำนวนดังกล่าวเพียงพอในการดำเนินคดีเลี้ยงตัวเอง ภรรยา และหลานสาวที่พิการ ทั้งเพียงพอในการซ่อมแซมบ้านที่ชำรุดผุพังแล้ว พร้อมขอขอบคุณผู้ใจบุญ และผู้มีจิตศรัทธาที่ให้ความช่วยเหลือตนและครอบครัว จึงอยากให้ไปแบ่งปันความช่วยเหลือให้แก่คนอื่นที่ขาดโอกาสเหมือนกันตนเองด้วย
ด้าน ด.ต.พิทยาวุฒิ จันทร์ประโคน สายตรวจตำบลสะแกซำ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้มาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับคุณตาแพน เพื่อป้องกันกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพฉวยโอกาสมาหลอกลวงคุณตาในรูปแบบต่างๆ เพราะขณะนี้มีผู้ใจบุญโอนเงินมาช่วยและเดินทางมามอบเงินและสิ่งของที่บ้านจำนวนมาก
ด้านนางกัลยากร เพชรชนะ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาอิสาณ กล่าวว่า กรณีคุณตาแพนนั้นทาง ธ.ก.ส.จะได้อำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ส่วนการดูแลเรื่องเบิกจ่ายเงินนั้นทางธนาคารได้แนะนำให้เปิดบัญชีร่วม 2 คน คือ ตา กับยาย เวลาเบิกจะได้รับรู้ร่วมกัน ซึ่งทางธนาคารเองจะได้ช่วยดูแลกลั่นกรองในการเบิกจ่ายเงินในอีกทางหนึ่งด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มแก๊งมิจฉาชีพมาหลอกลวงหาผลประโยชน์ซ้ำเติมคุณตาในอีกทางหนึ่งด้วย
