xs
xsm
sm
md
lg

เตือน 10 จว.ภาคกลางรับมือน้ำล้นตลิ่ง ผู้ว่าฯ อยุธยา-อ่างทองแจ้งประชาชนยกของขึ้นที่สูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา/อ่างทอง - ปภ.แจ้งเตือน 10 จังหวัดภาคกลางเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำท่าจีน เพิ่มสูงขึ้น ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ด้านผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา จัดโซนนิ่งสำคัญ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนถึงการระบายน้ำเข้าทุ่งให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนผู้ว่าฯ อ่างทอง นำทีมลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำท่วมที่โผงเผง พร้อมสั่งประชาชนยกของขึ้นที่สูง

วันนี้ (10 ต.ค.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำท่าจีน เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงประสานหน่วยชลประทานในพื้นที่เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ เปิด-ปิดประตูระบายน้ำให้สอดคล้องต่ออัตราความเร็วของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำท่าจีน รวมถึงปริมาณฝนที่ไหลมาสมทบ

พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำท่าจีน เกษตรกร ผู้ประกอบการ ร้านค้า เรือโดยสาร นักท่องเที่ยว ประชาชนที่สัญจรทางน้ำ ผู้ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างโครงสร้าง หรือเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำท่าจีน ให้ติดตามสถานการณ์น้ำ และประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด

รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม และระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรทางน้ำ ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เรือท้องแบน และรถปฏิบัติการประจำพื้นที่เสี่ยง ให้พร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดวางแนวกระสอบทราย และติดตั้งเครื่องสูบน้ำป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำท่าจีน

ด้าน นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้จัดโซนนิ่งแบ่งหน่วยงานเข้าไปรับผิดชอบเฝ้าระวังน้ำท่วมพื้นที่สำคัญอย่างใกล้ชิด คือ โซนอุตสาหกรรม เมืองมรดกโลก เขตพระราชฐาน โบราณสถาน วัด และโรงพยาบาล เนื่องจากขณะนี้ เขื่อนเจ้าพระยา ได้มีการระบายน้ำเกือบ 2,300 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนพระราม 6 ระบายออกมา 700 ลบ.ม./วินาที รวมถึงการระบายน้ำเข้าทุ่งต้องดูว่าหากระบายแล้วจะสามารถยืดระยะเวลาได้นานเท่าไร โดยจะทยอยดำเนินการตามความเหมาะสม ซึ่งล่าสุด นายอำเภอ ได้กำชับ และประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในบางพื้นที่แล้ว ดังนั้น ความขัดแย้งจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“ต้องดูสถานการณ์น้ำว่าจะมีการระบายน้ำเพิ่มหรือไม่ ถ้าระบายเพิ่มก็ต้องใช้อีก 2 ทุ่ง คือ บางบาล กับเจ้าเจ็ด จริงๆ เรามีทุ่งอีกทุ่งหนึ่ง ซึ่งรับน้ำได้ 10 ล้านคิว คือ ทุ่งบ้านแพน พื้นที่ 6 พันไร่ ก็จะมีการสำรวจ และเตรียมการ แต่ 3-4 ทุ่งนี้ เนื่องจากมีข้าวค้างอยู่ร่วมแสนไร่ ก็ไม่ได้ปล่อยน้ำให้ท่วม ก็พยายามชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชน ตรงไหนพร้อมก็เร่งให้เกี่ยว เพื่อจะให้ว่างสำหรับเตรียมความพร้อมได้มากขึ้น”

นายสุจินต์ กล่าวอีกว่า หากเกิดสถานการณ์เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้จะต้องมีการเตรียมตัว โดยเฉพาะประกาศให้ประชาชนรับทราบทันที หรือประกาศเตือนภัย พร้อมเตรียมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน

ทางด้าน นายวีร์รวุทธ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และนายรณชัย จิตรวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย นายไพบูลย์ ศุภบุญ นายอำเภอป่าโมก ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณหมู่ 4 และหมู่ 5 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน สอบถามความเป็นอยู่ และความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยตามบ้านเรือน และจุดที่พักเต็นท์ชั่วคราวบริเวณริมถนนสายป่าโมก-บางบาล

พร้อมกับได้แจ้งเตือนให้ประชาชนทราบว่าระดับน้ำเจ้าพระยาจะสูงเพิ่มขึ้นอีก 50-70 เซนติเมตร ให้เตรียมขนของขึ้นที่สูง เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาจะมีการระบายน้ำเพิ่มเป็น 2,300 ลบ.ม./วินาที
กำลังโหลดความคิดเห็น