พระนครศรีอยุธยา - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เร่งระบายน้ำลงน้ำสู่ท้ายเขื่อนแม่น้ำป่าสัก ทำให้เขื่อนพระราม 6 พระนครศรีอยุธยา ต้องเร่งระบายน้ำ ทำให้ระดับในแม่น้ำป่าสักเพิ่มปริมาณมากขึ้นทะลักท่วมชุมชนข้างวัดสะตือ อำเภอท่าเรือ ประชาชนต้องเร่งเก็บข้าวของหนีน้ำกันวุ่น ขณะที่เขื่อนพระราม 6 ปักธงสีแดงแจ้งเตือนภัยเรื่องการปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อน
วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เร่งระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนแม่น้ำป่าสัก ทำให้เขื่อนพระราม 6 ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องเร่งระบายน้ำ 594.88 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลทำให้ระดับในแม่น้ำป่าสัก เพิ่มปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะที่บริเวณชุมชนข้างวัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประชาชนต้องเร่งเก็บข้าวของหนีน้ำ ขณะที่ระดับสูงประมาณ 60 ซม. นอกจากนี้ เขื่อนพระราม 6 ยังได้ปักธงสีแดงแจ้งเตือนภัยเรื่องการปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อนไว้บริเวณเหนือเขื่อนด้วย
ขณะที่ นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลท่าเรือ ได้เร่งวางแนวกระสอบทรายบริเวณใต้สะพานจักกรี ริมแม่น้ำป่าสัก ฝั่งตลาดท่าเรือ ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ทะลักเข้าท่วมตลาดท่าเรือ ระดับน้ำเหลืออีกประมาณ 50 ซม.
นายวิทิต กล่าวว่า ขณะนี้เขื่อนพระราม 6 ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ เร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนลงสู่แม่น้ำป่าสักตอนล่าง ที่ 594.88 ลบ.ม.ต่อวินาที่แล้ว และได้มีการขึ้นปักธงสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์แจ้งเตือนภัยวิกฤตของการปล่อยน้ำท้ายเขื่อนที่เกินกว่า 550 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งน้ำปริมาณดังกล่าวจะทำให้น้ำล้นตลิ่ง
ส่วนชุมชนริมน้ำท้ายเขื่อนพระราม 6 ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลท่าหลวง น้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้านบ้างแล้ว สำหรับบริเวณใต้สะพานจักรกรี ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำที่สุดนั้นต้องเร่งทำการวางแนวกระสอบทรายอุดท่อระบายน้ำที่น้ำจะไหลทะลักเข้ามา ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมถนน และไหลเข้าท่วมตลาดท่าเรือ หากการระบายน้ำจากเขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ระดับนี้ไม่เกิน 600 ลบ.เมตรต่อวินาที น้ำจะไม่ท่วมตลาดท่าเรือ
ส่วนที่จังหวัดลพบุรี วันนี้ได้มีการประกาศปิดน้ำตกวังก้านเหลือง เป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกทุกชั้น ตามมาตรการรักษาความปลอกภัยให้แก่นักท่องเที่ยว หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ และเกิดน้ำป่าไหลหลาก กระแสน้ำแรงทุกชั้นน้ำตก หวั่นเกิดอันตรายถึงชีวิต ภายหลังมีฝนตกหนัก และสะสมต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอชัยบาดาล และอำท่าหลวง จังหวัดลพบุรี
ล่าสุด สวนรุกขชาติน้ำตกวังก้านเหลือง ซึ่งมีต้นน้ำตก และปลายน้ำยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร และกินพื้นที่ 2 อำเภอ ทั้งอำเภอท่าหลวง และอำเภอชัยบาดาล ได้เกิดมวลน้ำขนาดใหญ่ซึ่งสะสมอยู่บริเวณแนวป่าจากที่สูงไหลลงสู่พื้นที่ต่ำตามชั้นต่างๆ ของน้ำตกวังก้านเหลือง โดยมีน้ำเป็นสีแดงเข้ม กระแสน้ำพัดแรง และเชี่ยวกราก บางช่วงกระแสน้ำพัดเอากิ่งไม้ และขอนไม้ขนาดใหญ่ไหลตามลงมาตามชั้นน้ำตก
เบื้องต้น นายอัมรินทร์ นุ่มดี หัวหน้าสวนรุกชาติน้ำตกวังก้านเหลือง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดป้ายประกาศตามชั้นน้ำตกทุกชั้น จำนวน 7-8 ชั้น เพื่อแจ้งเตือนห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ และปิดพื้นที่เล่นน้ำในเขตสวนรุกชาติน้ำตกวังก้านเหลือง เป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากฝนที่ตกติดต่อกันทำให้ปริมาณน้ำสะสมบริเวณต้นน้ำของน้ำตกวังก้านเหลือง มีจำนวนมาก มีกระแสพัดแรง และเชี่ยวกราก หวั่นเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยว โดยให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามประเมินสถานการณ์น้ำทุกชั่วโมง หากไม่มีฝนตกซ้ำลงมาในพื้นที่จากนี้ประมาณ 3 วันคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าสำรวจตามชั้นน้ำตกอีกครั้ง และจึงจะประกาศเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใช้บริการ และสามารถลงเล่นน้ำตกได้ตามปกติ